ค่าบาทวันนี้ 36.12 บาท อ่อนค่าเล็กน้อย หลังตลาดหวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว-เงินเหรียญสหรัฐอ่อน
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.12 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.08 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00-36.20 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ภาวะตลาดการเงินที่กลับมาระมัดระวังตัวมากขึ้นอาจกดดันให้เงินบาทมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง โดยเฉพาะในกรณีที่นักลงทุนต่างชาติบางส่วนทยอยขายทำกำไรการปรับตัวขึ้นของหุ้นไทยบ้าง อย่างไรก็ตาม เงินบาทจะไม่ได้อ่อนค่าไปมาก เพราะเงินเหรียญสหรัฐก็ขาดปัจจัยหนุนที่จะกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
สำหรับตลาดค่าเงิน เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ (DXY Index) ได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 105.4 จุด กดดันโดยแนวโน้มการชะลอตัวลงที่ชัดเจนมากขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงมุมมองของผู้เล่นบางส่วนที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดดอกเบี้ยลงได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า ทั้งนี้ แม้ว่าเงินเหรียญสหรัฐ รวมถึงบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐจะปรับตัวลดลงมาบ้าง และช่วยหนุนให้ราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,788 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แม้ผู้เล่นในตลาดต่างก็ทยอยเข้ามาขายทำกำไรการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำบ้าง ทำให้ราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านได้
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นนี้ โซนแนวรับสำคัญของเงินบาทจะอยู่ในช่วง 36.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งเห็นผู้นำเข้าบางส่วน รวมถึง บริษัท MNC ญี่ปุ่นทยอยเข้ามาซื้อเงินเหรียญสหรัฐ หรือเงินเยนญี่ปุ่นบ้างในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ส่งออกยังไม่รีบกลับมาขายเงินเหรียญสหรัฐ และส่วนใหญ่ต่างก็รอทยอยขายเงินเหรียญสหรัฐในช่วง 36.40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้โซนดังกล่าวพอจะเป็นแนวต้านในช่วงนี้ได้ ทั้งนี้ ช่วงตลาดการเงินมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets) ระบุว่า ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.90-36.10 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับทุกสกุลเมื่อวานนี้ เนื่องมาจากการที่ตลาดที่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลงในประชุมครั้งที่เหลือ ซึ่งคืนที่ผ่านมาตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐอยู่ที่ 52.2 และ ISM ที่ 52.8 ออกมาระบุว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโตแต่มีการชะลอตัวลง และในฝั่งเอเชียดัชนีภาคการผลิต (PMI) จีนออกมาที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้สภาวะเศรษฐกิจหดตัวส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลง 4% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการวันแรกปิดย่อตัวลงมาจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งนี้ ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐวันศุกร์นี้
