รฟม.โต้เอกชน-นักวิชาการ กล่าวหาใช้ดุลพินิจบิดเบือนประมูลสายสีส้ม

รฟม.โต้เอกชน-นักวิชาการ กล่าวหาใช้ดุลพินิจบิดเบือนประมูลสายสีส้ม

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม รายงานข่าวจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ตามที่มีนักวิชาการ ซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง ได้ให้ข่าวเกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เรื่องการกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ายื่นข้อเสนอการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งใช้ดุลพินิจที่บิดเบือน ไม่เป็นกลาง และใช้ดุลพินิจบนฐานมุมมองของเอกชนรายใดรายหนึ่ง โดยไม่สนใจข้อชี้แจงใดๆ ของ รฟม. สร้างความเสียหายต่อ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) คณะกรรมการคัดเลือกนั้น

รายงานข่าวระบุว่า รฟม.ขอชี้แจงดังนี้ 1.การกำหนดคุณสมบัติทางด้านเทคนิค ประสบการณ์ และผลงานการก่อสร้างงานโยธา โดยกำหนดให้ใช้ผลงานที่แล้วเสร็จและเป็นผลงานที่ดำเนินการในประเทศไทย เนื่องจากงานก่อสร้างงานโยธาโครงการเป็นลักษณะที่รัฐให้เอกชนลงทุนค่าก่อสร้างงานโยธาไปก่อนแล้วจึงชำระคืนภายหลัง ซึ่งเสมือนรัฐเป็นผู้ลงทุนจ้างก่อสร้างเอง โดยมูลค่าของงานร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 128,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งานโยธาถึงประมาณ 96,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 75% ของมูลค่างาน

ดังนั้น ประกาศเชิญชวนจึงได้กำหนดคุณสมบัติด้านผลงานก่อสร้างของผู้ยื่นข้อเสนอ โดยคำนึงถึงความสำเร็จของโครงการโดยเทียบเคียงแนวทาง ระเบียบ และกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับการประกวดราคานานาชาติ (ไอซีบี) ที่ รฟม.ใช้ประมูลงานก่อสร้างโยธาล่าสุด คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ซึ่งในการยื่นข้อเสนอการร่วมลงทุนมีทางเลือกที่หลากหลายและเปิดกว้างในการรวมกลุ่มนิติบุคคล สามารถจับกลุ่ม หรือหาผู้รับจ้างที่มีผลงานเพื่อใช้เป็นผลงานของผู้ยื่นข้อเสนอได้ และไม่ได้กำหนดว่าผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียวเท่านั้นที่มีผลงานก่อสร้างงานโยธากับรัฐบาลไทยครบทั้ง 3 ประเภท จึงจะสามารถยื่นข้อเสนอได้

ทั้งนี้ เป็นปกติของการดำเนินโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐที่ย่อมมีผู้ก่อสร้างโครงการหลายรายที่จะเข้าดำเนินการร่วมกันใน 1 โครงการ เพื่อให้แล้วเสร็จตามแผนงาน ซึ่งในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. ที่ผ่านมา ก็มีผู้รับจ้างก่อสร้างจับกลุ่มในการยื่นข้อเสนอและดำเนินการก่อสร้างหลายราย ดังนั้น การที่กล่าวอ้างว่าการกำหนดคุณสมบัติดังกล่าวเป็นการไม่เปิดกว้าง ทำให้เอกชนบางรายไม่สามารถจับกลุ่มยื่นข้อเสนอได้นั้นจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง

ADVERTISMENT

2.การกำหนดคุณสมบัติด้านการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงในการคัดเลือกเอกชนครั้งนี้ ได้มีการเปิดโอกาสให้ เอกชนผู้เดินรถจากทุกประเทศทั่วโลก ให้สามารถที่จะเข้ายื่นข้อเสนอได้ โดยอยู่บนฐานเงื่อนไขในเอกสาร อาร์เอฟพี เช่นเดียวกัน ดังนั้น การที่ระบุว่าบางบริษัทไม่สามารถเข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้ได้นั้น รฟม.ขอยืนยันว่าบริษัทสามารถหาพันธมิตร หรือผู้รับจ้างที่จะสามารถเติมเต็มข้อกำหนดตามประกาศเชิญชวนได้

อนึ่ง รฟม.ขอตั้งข้อสังเกต กรณีบุคคลบางท่านนำข้อมูลเพียงบางส่วนในเอกสารประกาศเชิญชวนมาใช้วิจารณ์ และคาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ ในการยื่นข้อเสนอของภาคเอกชนนั้น ควรพิจารณานำเสนอข้อเท็จจริงให้ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน เนื่องจากการวิจารณ์บนฐานมุมมองของเอกชนรายเดียวที่ผ่านมาตลอดโดยใช้คำว่า “ประโยชน์ของประเทศชาติ” เป็นข้ออ้าง นั้น เป็นที่น่ากังขาเกี่ยวกับความเป็นกลางในการวิจารณ์เป็นอย่างยิ่ง

ADVERTISMENT

รฟม.ขอยืนยันว่า การกำหนดเงื่อนไขการคัดเลือก คุณสมบัติด้านเทคนิค ประสบการณ์ และผลงานของผู้เข้ายื่นข้อเสนอตามประกาศเชิญชวน ได้ดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน เป็นการกำหนดที่เปิดกว้าง ทำให้มีผู้ที่สามารถเข้าร่วมการคัดเลือกได้มากราย เกิดการแข่งขันที่โปร่งใส เป็นธรรม มีกระบวนการตรวจสอบจากภาคเอกชนตามระบบข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น ส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image