เงินบาทวันนี้แข็งค่าเล็กน้อยที่ 36.26 บาท หลังตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยง

แฟ้มภาพ

เงินบาทวันนี้แข็งค่าเล็กน้อยที่ 36.26 บาท หลังตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.26 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.28 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ตลาดอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงอาจช่วยหนุนให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะหากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยมากขึ้น หลังสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐได้คลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังความผันผวนในตลาดค่าเงินอาจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงตลาดรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) แม้ว่าจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ยังกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวลงหนักหรือเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยช่วงปลายปี เหมือนในการประชุมครั้งก่อนหน้า ก็อาจจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) พลิกกลับมาอ่อนค่าลงหลังรับรู้การประชุมและหนุนให้เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นได้

ตลาดค่าเงิน เงินเหรียญสหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ (DXY Index) ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 106.5 จุด หนุนโดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าคาด รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังคงย้ำจุดยืนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จนกว่าจะแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้ ทั้งนี้ เงินเหรียญสหรัฐอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบ้าง หากตลาดคลายกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐ และตลาดโดยรวมกลับมาเปิดรับความเสี่ยงจากรายงานผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด ทั้งนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินเหรียญสหรัฐ รวมถึงภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดได้กดดันให้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,764 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

ทั้งนี้ ช่วงตลาดการเงินยังผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

Advertisement

ด้าน กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets) ระบุว่า ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.10-36.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก โดยได้แรงหนุนจากความกดดันทางการเมืองจากการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พร้อมด้วยความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าเฟดมีแนวโน้มยังคงต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อคุมเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก จากตัวเลขดัชนีภาคบริการที่สูงกว่าคาดที่ 56.7 ส่งผลคลายความกังวลเรื่องปัญหาคอขวดของอุปทานและแรงกดดันเรื่องราคา ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบปรับลงราว 4% ต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากรายงานปริมาณน้ำมันคงคลังเพิ่มขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image