ขับรถตกหลุมอะไรพังบ้าง?


เมื่อขับรถตกหลุม หลายคนคงกังวลว่าจะเกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนรถยนต์จุดไหนบ้าง และเป็นอันตรายแค่ไหน

ยานยนต์ “มติชน” มีข้อแนะนำ สำหรับล้อคู่หน้าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างติดอยู่ เมื่อเกิดการตกหลุมทั้งเบาและแรง อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ได้ดังนี้

1.กรณีตกหลุมแรงมากครั้งเดียว อาการที่พบทันทีสำหรับยางจุ๊บเลส (Tubeless) คือยางแบน ต้องเปลี่ยนยางอะไหล่เพื่อวิ่งไปก่อน แต่ถ้ายังขับบดยางก็เปลี่ยนยางใหม่เลย ส่วนมากจะมีผลต่อกระทะล้อด้วย ถ้าเป็นกระทะเหล็กแล้วเสียศูนย์ ก็ขึ้นแท่นเจียรเหวี่ยงไปเคาะไปจนกลมมากที่สุด แล้วก็เอาตะกั่วถ่วงตามจุดที่จำเป็น ส่วนกระทะอัลลอยก็อาจเจียร หรือถ้าหนัก เจียรไม่ไหวก็ต้องเปลี่ยน ถ้าใครไม่เปลี่ยน คงต้องขืนพวงมาลัยตลอด เพราะถ้าปล่อยมือรถจะเป๋

2.ตกหลุมไม่ลึกมากแต่บ่อยๆ อาจส่งผลต่อกระทะล้อ สามารถทำตามข้อแนะนำข้างต้นได้

Advertisement

3.วิ่งถนนขรุขระเจอหลุมเล็กๆ นานๆ หรือลุยน้ำหน้าฝนก็จะได้ยินเสียงวี้ดหรือหอน รถอาจวิ่งได้ราบรื่น แต่จะรู้สึกว่ามีเสียงรบกวนตลอด แนะนำให้เปลี่ยนลูกปืนล้อ

แต่ถ้าไม่เปลี่ยน จะเกิดอาการขยายผลไปเรื่อยๆ ได้แก่

-ระบบโช้กอัพ ตามปกติจะไม่เสียทันที แต่จะเริ่มจากยางรองหัวโช้กอัพกับตัวถังแตกก่อน ราคาไม่แพงมาก ถ้าไม่เปลี่ยนเวลาเบรก หรือออกตัวแรงๆ จะดังกึก และก้านโช้กอัพจะเริ่มคด เวลาขย่มรถจะไม่ค่อยเด้ง ตอนนี้ก็ได้เวลาเปลี่ยนโช้ก

Advertisement

-ระบบลูกหมากจะเริ่มหลวมโยกคลอน ตัวเหล็กน่าจะยังเหมือนเดิม แต่ระหว่างเบ้าเหล็กจะเป็นพลาสติกหรือเทฟลอนและจารบีหุ้มด้วยยางกันฝุ่น พอพลาสติกแตกแล้วเวลาวิ่งจะโยกซ้ายขวา แต่ถ้าเป็นศูนย์บริการบางแห่งส่วนใหญ่จะให้เปลี่ยนยกชุด

อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าว ถ้ายังวิ่งช้าๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ายังใช้สมบุกสมบัน อาการต่อไปนี้จะเกิดขึ้น ได้แก่

-เพลาขับจะเริ่มมีปัญหา ก็รถเอียงซ้ายทีขวาที ยางกันฝุ่นเพลาขับก็เริ่มโยกหลุด พอจาระบีไหลออกก็เหลือเหล็กกับเหล็กโดยตรง ลูกปืนเพลาก็แตก ก้านเพลาก็คด บางทีอาจต้องเปลี่ยนยกชุด

ไปเลย

-คันชักพวงมาลัยจะหลวม ตัวนี้เหมือนลูกหมากและเพลาขับ หลวมได้คดได้ ต่อไปยางแท่นเครื่องจะแตก หลังจากนั้นระบบวาล์วเครื่องยนต์อาจเสียหายได้ เอาเป็นว่าดูตามอาการ ถ้าดูท่าไม่ดีก็เลือกเปลี่ยนตามสเต็ปและอาการที่แจ้งมาละกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image