‘เกรฮาวด์’ สุดอั้น ขึ้นราคาบางเมนู 15-20 บาท ลุยเปิด 3 สาขา ปักหมุด ‘ราชพฤกษ์’ สแตนด์อโลนแห่งแรก
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายภาคิน เพ็ญภาคกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับก่อนมีโควิด เช่น ผัก อาหารทะเล โดยที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ลดคุณภาพและปริมาณ แต่ได้มีการปรับราคาขึ้นบางเมนูประมาณ 15-20 บาทต่อเมนู เช่น ข้าวกุ้งผัดพริกเผา หรือเมนูเป็นแซลมอน เพื่อให้ราคาเหมาะสมกับสถานการณ์ และจะพยายามตรึงราคาต่อไปถึงสิ้นปีนี้
เนื่องจากมองว่าราคาสินค้ามีขึ้นและมีลง รวมถึงใช้วิธีบริหารจัดการต้นทุน เช่น ซื้อตรงจากแหล่งผลิต นำเข้าเอง ส่วนเรื่องแรงงานมีขาดบ้างเพราะคนที่เคยทำงานในร้านเมื่อกลับไปต่างจังหวัดแล้วจะไม่กลับมาอีกแล้ว ต้องบริหารจัดการใช้พนักงานที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“จากโควิดระบาด ทำให้ยอดขายลดลงมาก บางวันเป็นศูนย์เลยก็มี พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ให้ทานอาหารในร้านอาหารได้ ทำให้ปีนี้เริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่เท่ากับปี 2562 และตั้งเป้าปีนี้จะผลักดันยอดขายให้ได้ 60-70 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 840 ล้านบาทต่อปี พร้อมลงทุน 80 ล้านบาท เปิด 3 สาขาใหม่ในครึ่งปีหลังที่รัชโยธิน โรงพยาบาลเมดพาร์ค และราชพฤกษ์ เพิ่มจากเดิมมีกว่า 20 สาขา และยังไม่มีแผนขยายสาขาไปต่างจังหวัด” นายภาคินกล่าว
นายภาคินยอมรับว่า หลังเกิดโควิดทำให้รูปแบบการเปิดสาขาใหม่เปลี่ยนไป ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนมากขึ้น ที่ให้ความสนใจไปสถานที่ใหม่ ๆ เน้นถ่ายรูปหรือมองหาสิ่งใหม่ ๆ จากเดิมจะเปิดในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ จะเปิดเป็นแบบสแตนด์อโลนที่มีความเป็นอิสระ สามารถออกแบบตกแต่งร้านได้อย่างที่ต้องการ
โดยสาขาราชพฤกษ์จะเป็นสาขาแรก มีพื้นที่ 3 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดบริการได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ หรืออย่างช้าต้นปี 2566 โดยเป็นสาขาที่อยู่ในทำเลมีศักยภาพ เป็นย่านที่อยู่อาศัย และใกล้คอมมูนิตี้มอลล์ ที่สำคัญอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ทำให้การเดินทางสะดวก
นายภาคินกล่าวว่า สำหรับสาขาเปิดสาขาใหม่ที่ “ดิ อเวนิว รัชโยธิน” ใช้งบลงทุนกว่า 15 ล้านบาท จะเป็นคาแรกเตอร์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนย่านนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Cozy at day, Party at night เน้นบรรยากาศเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน หรือจะนัดเพื่อนมาสังสรรค์หลังเลิกงาน เพลิดเพลินไปกับดนตรีที่ผลัดเปลี่ยนกันมาให้ความบันเทิงทุกค่ำคืน คงความเป็นเกรฮาวด์ คาเฟ่ ที่มีความแฟชั่นมากขึ้นให้เหมาะกับยุคสมัย เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้ามา นอกจากฐานลูกค้าเดิม
ทั้งนี้เมื่อปี 2554 เกรฮาวด์ยังขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านระบบแฟรนไชส์ ยกเว้นที่ลอนดอนที่เปิดเอง โดยเริ่มเปิดสาขาแรกที่ IFC mall ฮ่องกง ปัจจุบันมีสาขาในต่างประเทศทั้งหมด 13 สาขา ใน 4 เมืองใหญ่ของเอเชีย คือ ฮ่องกง, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์ และ 1 สาขาในยุโรป ณ กรุงลอนดอน ใจกลางประเทศอังกฤษ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Bangkok Café” ที่เป็นมากกว่าร้านอาหารไทย
“หลังเกิดโควิดระบาด 2 ปี ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบพอสมควร ทำให้เราปรับตัวเยอะ ปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนมายเซ็ตพนักงาน เช่น คนเดียวต้องทำได้หลายหน้าที่ และรายได้หลักมาจากสาขาต่างประเทศแต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว หลังโควิดคลี่คลายและเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เริ่มมีลูกค้าต่างประเทศกลับมา แต่รายได้อาจจะยังไม่กลับเป็นปกติด้วยภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น” นายภาคินกล่าว
