‘อู่กรุงเทพ’ เปิดชิงที่ดินทำเลทองริมเจ้าพระยาผืนสุดท้าย ลุ้น ‘เซ็นทรัล-บีทีเอส’ ซื้อซองประมูล
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด รัฐวิสาหกิจในความควบคุมของกองทัพเรือ สังกัดกระทรวงกลาโหม กำลังเปิดให้เช่าที่ดินตามโฉนดเลขที่ 688 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก เนื้อที่ 20 ไร่ 1 งาน 82 ตารางวา เป็นระยะเวลา 30 ปี ด้วยวิธีการประมูล ซึ่งเอกชนผู้ชนะการประมูลสามารถนำที่ดินที่เช่าไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยเปิดให้เอกชนที่สนใจซื้อเอกสารข้อมูลการประกวดราคาตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคมถึงวันที่ 6 กันยายน 2565 และยื่นข้อเสนอวันที่ 7 กันยายน 2565
โดยผู้เสนอราคาจะต้องเสนอค่าตอบแทนการเช่า ในส่วนค่าหน้าดิน และค่าเช่ารายปี ตามแบบข้อเสนอคำตอบแทนการเช่าที่ดินเป็นเงินรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 2,996.137 ล้านบาท ผู้เสนอราคาจะต้องชำระค่าตอบแทน การเช่า ภายใต้เงื่อนไข คือ
1.ค่าตอบแทนการเช่าในส่วนค่าหน้าดิน เป็นค่าตอบแทนการเช่าในส่วนค่าหน้าดิน ต้องชำระมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,040.136 ล้านบาท โดยชำระงวดเดียวในวันที่จดทะเบียนการเช่าที่ดินต่อสำนักงานที่ดิน
2.ค่าตอบแทนการเช่า ในส่วนค่าเช่ารายต้องชำระภายในกำหนดเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าที่ดินฉบับที่จดทะเบียนต่อสำนักงานที่ดินมีผลใช้บังคับ เป็นจำนวนเงินกว่า 1,956 ล้านบาท
โดยปีที่1-3 ค่าเช่าปีละ 40.91 ล้านบาท ,ปีที่4-6 ค่าเช่าปีละ 45.001 ล้านบาท ,ปีที่7-9 ค่าเช่าปีละ 49.501 ล้านบาท ,ปีที่10-12 ค่าเช่าปีละ 54.451 ล้านบาท ,ปีที่13-15 ค่าเช่าปีละ 59.896 ล้านบาท ,ปีที่16-18 ค่าเช่าปีละ 65.885 ล้านบาท ,ปีที่ 19-21 ค่าเช่าปีละ 72.474 ล้านบาท, ปีที่ 22-24 ค่าเช่าปีละ 78.722 ล้านบาท ,ปีที่ 25-27 ค่าเช่าปีละ 87.694 ล้านบาท และปีที่ 28-30 ค่าเช่าปีละ 96.463 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้ชนะจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่า ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีอื่นๆ พร้อมรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างเดิม ส่วนเศษซากเดิมที่รื้อถอนสามารถตีมูลค่าได้ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท รวมถึงจัดหาที่ตั้งสำนักงานชั่วคราวให้บริษัทระหว่างการรื้อถอน และหลังหมดสัญญาเช่าสามารถต่อสัญญาออกไปได้อีก 1 ครั้ง ระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี
แหล่งข่าวจากบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด กล่าวว่า สำหรับการเปิดประมูลครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 หลังครั้งแรกเปิดเมื่อเดือนเมษายน 2565 มีผู้ซื้อเอกสาร 2 ราย แต่ติดเงื่อนไขภายในทำให้ยกเลิกไป ส่วนครั้งที่ 2 เปิดประมูลเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีเอกชน 4 รายซื้อเอกสารประมูล อาทิ กลุ่มเซ็นทรัลสนใจจะเช่าพัฒนาโรงแรม ,กลุ่มบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ,บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) แต่มีติดเงื่อนไขบางอย่าง เช่น การจ่ายเงินงวดแรก 1,000 ล้านบาท อยากให้มีการแบ่งชำระ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ทำให้ยกเลิกและเปิดประมูลใหม่ในรอบที่ 3 นี้
“คาดว่าจะมีเอกชนสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มเดิมที่เคยซื้อเอกสารครั้งที่ 2 ไป เพราะเป็นที่ดินผืนสุดท้ายแล้วในย่านนี้ที่ติดแม่น้ำ ใกล้รถไฟฟ้า และผลตอบแทน 30 ปี วงเงิน 2,996 ล้านบาทถือว่าไม่สูง เมื่อเทียบกับราคาที่ดินอยู่ที่ 5 แสนบาท/ตารางวา คิดเป็นมูลค่ารวม 20 ไร่ อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ส่วนรูปแบบการพัฒนาขึ้นอยู่กับขัอเสนอเอกชน แต่ที่เคยศึกษาไว้ เป็นโครงการมิกซ์ยูส มีคอนโดมิเนียม โรงแรม ศูนย์การค้า ออฟฟิศ” แหล่งข่าวกล่าว
