‘พิพัฒน์’ นำร่อง 8 จังหวัด ‘ผับตี 4’ ปักหมุดข้าวสารแหล่งฮอตฮิต

‘พิพัฒน์’ นำร่อง 8 จังหวัด ‘ผับตี 4’ ปักหมุดข้าวสารแหล่งฮอตฮิต

การต่อยอดฟื้นกิจกรรมทางธุรกิจกลางคืน กำลังก้าวไปอีกขั้น เมื่อภาครัฐและเอกชนมีแนวคิดเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียว ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงกลางคืน ผับ บาร์ รวมถึงพื้นที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน สามารถเปิดบริการได้ดึกมากขึ้น หรือเปิดบริการได้ถึงเวลา 04.00 น. จากปัจจุบันสถานบันเทิงเปิดได้ดึกสุดไม่เกินเวลา 02.00 น.

ภาครัฐที่ออกมาประกาศเดินหน้าหนุนในขณะนี้ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเดินสายหารือร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวเป้าหมาย 8 จังหวัด ในการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจากที่เปิดกันอยู่ถึงตีสอง ขยายเป็นตีสี่ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสนับสนุนเศรษฐกิจภาคกลางคืน

โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ชลบุรี (พัทยา) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) และเชียงใหม่ ในแนวคิดต่อการคัดเลือกจังหวัดเป้าหมายที่นำร่องทั้ง 8 จังหวัด ต้องเลือกพื้นที่มาก่อน 1 จุด เพื่อเป็นแม่เหล็กใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นตัวอย่างนำร่องก่อน อีกทั้งเป็นแหล่งที่ต่างชาติรู้จักและนิยมเข้ามาท่องเที่ยวและใช้บริการเมื่อเดินทางมาประเทศไทย อย่างในกรุงเทพฯได้เลือกถนนข้าวสาร เพราะเป็นแหล่งสถานบันเทิงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จัก ได้รับความนิยมสูง

“ผมจะนำคณะลงพื้นที่เป้าหมายนั้นๆ เพื่อรับฟังความเห็นและบรรยากาศหลังเปิดบริการแล้วกับผู้ประกอบการในพื้นที่นั้นว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ประกอบการด้านสถานบันเทิงและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทำประชาพิจารณ์กันแล้ว ก่อนมาเสนอกระทรวงท่องเที่ยวฯ ในเบื้องต้นอยากให้เร่งรัดขยายเวลาปิดถึงตีสี่ โดยหลังจากผมลงพื้นที่หารือและรับฟังจากผู้ประกอบการแล้ว จะรวบรวมความเห็น ข้อมูลด้านต่างๆ และผลต่อการขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย

Advertisement

จะเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทันภายในเดือนกันยายนนี้ เพราะตอนนี้เห็นในหลายประเทศเริ่มเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ทำให้การเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ตามเมืองท่องเที่ยว ถึงตีสี่ ที่เน้นเฉพาะพื้นที่ เป็นโซนนิ่งแบบเพียงไม่กี่จังหวัดก่อน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะได้นำร่องได้ทันปลายปีนี้ เพื่อให้สามารถเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ทันไฮซีซั่นพอดี ที่ไฮซีซั่นจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม”

ล่าสุด รมต.พิพัฒน์ นำคณะผู้บริหารกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณถนนข้าวสารยามค่ำคืนของวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยพบปะพูดคุยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นสำรวจสถานการณ์การท่องเที่ยว ตบท้ายด้วยการพูดคุยกับผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจบนถนนข้าวสาร จากนั้นพูดย้ำว่า ในแนวคิดเรื่องมาตรการขยายเวลาปิดสถานบริการจาก ตี 2 ไป ตี 4 เราไม่ได้ต้องการปูพรมทำทั่วประเทศ แต่จะจัดโซนนิ่งเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติเท่านั้น และก่อนจะดำเนินการในเรื่องนี้ เราได้วางแผนที่จะให้มีการทำเวิร์กช็อป ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูล มาประกอบการพิจารณาว่าจะมีผลดีและผลเสียอย่างไรบ้าง

ผมขอยืนยันว่า สิ่งที่ผมคำนึงถึงที่สุดคือมาตรการดังกล่าวจะต้องไม่กระทบต่อศีลธรรมอันดีของประเทศ ต่อเยาวชนและประชาชนทั่วไป จะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองไม่ให้ได้รับผลกระทบที่ไม่ดีจากมาตรการดังกล่าว ความสงบเรียบร้อยของประเทศและการมีสังคมที่ดีเป็นสิ่งที่ผมคำนึงถึงตลอดและเป็นอันดับแรก เรื่องนี้ผมเปิดกว้างอยากให้เราได้คุยและหารือกัน หามาตรการใหม่ๆ ด้วยกัน ร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัย สะอาด ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

Advertisement

ที่สำคัญคือทุกคนได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน แนวคิดขยายเวลาปิดตีสี่ ต้องการนำมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศไทย มีการชะลอตัวจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการศึกษาวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียมาระดับหนึ่ง วันนี้อยากที่จะรับฟังเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากผู้ประกอบการในพื้นที่ถนนข้าวสารแห่งนี้ว่ามีความคิดเห็นกันเช่นไร และยังเป็นการป้องกันเหตุร้ายในหลายจุดที่แอบลักลอบเปิดเกินเวลาด้วย

รมต.พิพัฒน์ยังระบุถึงผลที่จะได้รับอีกว่า ประเมินว่าหากสามารถขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงตามเวลาถึงตีสี่ จะทำให้มีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 25% ด้วยลักษณะนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ ยุโรป ตะวันออกกลาง ปกติพอทานอาหารเย็นเสร็จประมาณเที่ยงคืน ก็จะออกเที่ยวต่อ พอเริ่มดื่มกินกันกำลังสนุกประมาณตีหนึ่งถึงตีสองสถานบันเทิงก็ต้องปิดให้บริการแล้ว ทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ จึงมองว่าควรขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงที่ได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ หากเริ่มได้เร็วและสอดรับกับช่วงตลาดท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัว ที่จะเป็นรอยต่อตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีนี้ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีถัดไป ช่วงนั้นจะได้กลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน

ถามฟากเอกชน “ธนากร คุปตจิตต์” ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย กล่าวเสริมว่า ในสัปดาห์หน้า กลุ่มผู้ประกอบการและอาชีพที่เกี่ยวข้องกับภาคกลางคืน ทั้งเจ้าของสถานบันเทิง นักดนตรีนักร้องอิสระ รถรับจ้าง เจ้าของฟู้ดทรัค ผู้ค้ารายย่อย และเครือข่ายต่างๆ รวมถึงตัวแทนบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้จัดประชุมหารือเปิดรับฟังและข้อเสนอในการผลักดันแนวคิดขยายเวลาเปิดให้บริการถึงตีสี่ ซึ่งกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ยืนยันสนับสนุนการเปิดในบางพื้นที่ที่เป็นจุดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ได้เสนอให้เปิดเป็นการทั่วไป

“การหารือก็จะรวบรวมข้อเสนอและทำความเข้าใจรวมกันในการพร้อมรับมาตรการควบคุมตามกฎหมายและมาตรการดูแลของภาครัฐ เรื่องนี้ผมเห็นว่าไม่ควรปิดกั้น อยากให้ทดลองอนุญาตให้เปิดถึงตีสี่ก่อน หากเห็นว่ามีผลเสียมาก ไม่คุ้มค่า ก็ให้กลับมาเปิดให้เวลาตีหนึ่งตีสองเหมือนวันนี้ก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ ศบค.ประกาศได้เลย
ไม่ต้องผ่าน ครม.ก็ได้ หากทดลองแล้วมีปัญหารัฐสั่งชะลอตัวได้ หน้าท่องเที่ยวพีคของปีกำลังมาถึงในอีก 1-2 เดือนจากนี้ ตอนนี้จะเห็นทุกประเทศแข่งขันแย่งนักท่องเที่ยวทั้งการยกเลิกมาตรการและผ่อนคลายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเขา และสถานบันเทิงถือว่าเป็นหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไปประเทศใดในช่วงพักผ่อนก็นิยมจะกินดื่มกัน อยากให้มองในแง่การเร่งฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและเป็นรายได้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย”

ก่อนหน้านี้ หอการค้าไทยออกมาระบุถึงการฟื้นกิจกรรมกลางคืน หลังรัฐผ่อนคลายให้กลับมาเปิดได้ปกติและขยายเวลาถึงตีสอง เกิดการใช้จ่ายกินและดื่มสะพัดเข้าระบบเศรษฐกิจจากปกติ 3-5 หมื่นล้านบาทต่อวัน

หากการต่อยอดเปิดเวลาให้บริการกินดื่มได้ดึกขึ้นบรรลุตามเป้าหมาย น่าจะเติมเงินใช้จ่ายเข้าระบบเศรษฐกิจแตะ 1 แสนล้านบาทต่อวัน ถือเป็นเม็ดเงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจเป็นกอบเป็นกำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image