ส่งออก ก.ค.โตแค่ 4.3% ขยายตัวต่ำในรอบ 15 เดือน ‘จุรินทร์’ เตรียมขันนอตทูตพาณิชย์ทั่วโลก

ส่งออก ก.ค.โตแผ่วแค่ 4.3% ‘จุรินทร์’ เตรียมขันนอตทูตพาณิชย์ทั่วโลก 14 ก.ย. เพิ่มแผนกระตุ้น 345 กิจกรรม เร่งเมืองรอง ดันเป้า 9 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า เดือนกรกฎาคม 2565 ไทยส่งออกมีมูลค่า 23,629 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 4.3% คิดเป็นเงินบาท 829,028 ล้านบาท บวก 17% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 27,289 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 23.9% คิดเป็นเงินบาท 968,939 ล้านบาท บวก 38.7% ทำให้ไทยขาดดุลการค้า 3,660 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท 139,911 ล้านบาท ดังนั้น 7 เดือนแรกปี 2565 ไทยส่งออกรวม 172,814 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 11.5% คิดเป็นเงินบาท 5.77 ล้านล้านบาท บวก 22.2% นำเข้ารวม 182,730 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 21.4% คิดเป็นเงินบาท 6.19 ล้านล้านบาท บวก 33% และขาดดุลสะสม 9,916 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท 417,939 ล้านบาท

นายจุรินทร์กล่าวว่า การส่งออกเดือนกรกฎาคม บวก 4.3% เนื่องจากกลุ่มสินค้าเกษตร ลบ 0.3% เพราะติดปัญหาผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักผลผลิตออกสู่ตลาดเร็วกว่าหลายปีก่อน จึงไม่มีของส่งออกและภาคเอกชนเร่งส่งออกก่อนหน้านี้ ส่วนกลุ่มสินค้าเกษตรกรรม บวก 14.6% โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี อาทิ ผลไม้แช่แข็งและผลไม้แห้ง ไก่สดแช่เย็น แช่แข็งและไก่แปรรูป ข้าว ยางพารา ไอศกรีม อาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม บวก 0.1% เนื่องจากติดปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) เป็นผลกระทบกับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมทั้งโลก กระทบจากไต้หวันซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่คลองตลาดประมาณ 40% ของโลกกำลังประสบปัญหากับจีน ขณะที่ตลาดส่งออก 10 อันดับแรกยังขยายได้ดี อาทิ เกาหลีใต้ บวก 39.4% ตะวันออกกลาง บวก 27.4% แคนาดา บวก 27.3% สหรัฐราชอาณาจักร บวก 17.2% สหภาพยุโรป บวก 8.1% สหรัฐอเมริกา บวก 4.7%

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การส่งออกในช่วง 5 เดือนหลังปีนี้ยังมีทิศทางที่ดี และมีความเป็นไปได้สูง ตัวเลขจะเกินเป้าหมายตั้งไว้ทั้งปี 2565 ไว้ที่บวก 4-5% โดยเน้นจะผลักดันมูลค่าการส่งออกให้ถึง 9 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยบวกในการเกื้อหนุนการส่งออกที่ผ่านมา ประกอบด้วย 4 ปัจจัย คือ 1.ความต้องการอาหารจากทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้สินค้าเกษตรอาหารยังไปได้ในการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกเติบโตได้ดี 2.การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดและการผ่อนคลายประเทศให้มีการท่องเที่ยวทำให้สินค้าบางส่วน เช่น อัญมณีเครื่องประดับ เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์การเดินทางขยายตัวได้ดีขึ้น

Advertisement

นายจุรินทร์กล่าวว่า 3.ค่าระวางเรือมีแนวโน้มลดลง ความหนาแน่นและความล่าช้าลดลง ในการขนส่งบริเวณท่าเรือสำคัญของโลก ที่ทำให้ระบบการขนส่งคล่องตัวไม่เป็นอุปสรรคในการส่งออก และ 4.การที่ค่าเงินบาทยังอ่อนค่า ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดโลกโดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ขณะที่ปัจจัยลบต่อการส่งออกคือผลกระทบจากเงินเฟ้อทั่วโลก มีผลต่อกำลังซื้อในประเทศและนำเข้าสินค้าลดลงได้ รวมถึงผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครน และการขาดแคลนชิปเพื่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม

“แม้ตัวเลขส่งออกทั้งปีน่าจะได้เกินเป้าที่วางไว้ 4-5% เพราะ 7 เดือนขยายตัวเกิน 11% แต่ก็ยังมีหลายปัจจัยเสี่ยง จึงได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกทำแผนเชิงรุกเชิงลึกและปรับเพิ่มการส่งออก พร้อมกันนี้ได้มีการเพิ่มจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในต่างประเทศอีก 345 กิจกรรม จากเดิมเตรียมไว้ 185 กิจกรรม รวมเป็น 530 กิจกรรม กิจกรรมเน้นผลักดันอาหารและเกษตร รวมถึงส่งออกเมืองรอง ซึ่งวันที่ 28 กันยายน จะลงนามผ่านมินิเอฟทีเอ ไทยกับคยองกี เกาหลีใต้ ซึ่งจะมีการประชุมทางไกลกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกในวันที่ 14 กันยายนนี้ เบื้องต้นมีตัวเลขคาดการณ์ใหม่แล้ว แต่อยากให้มีการประชุมกับทูตพาณิชย์ก่อน” นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวถึงการค้าชายแดนผ่านแดนเดือนกฎาคม 2565 ว่าในส่วนการส่งออกผ่านค้าชายแดน บวก 27.8% หรือมูลค่า 51,665 ล้านบาท ทำให้ 7 เดือนแรกปีนี้ การส่งออกผ่านการค้าชายแดน 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย เมียนมา ลาว และกัมพูชา มีมูลค่ารวม 376,074 ล้านบาท บวก 19.9% โดยมาเลเซีย บวก 23.4% เมียนมา บวก 51.3% กัมพูชา บวก 16.8% สปป.ลาว บวก 27% สำหรับการค้าผ่านแดนไปจีน เวียดนามและสิงคโปร์ ลบ 27.3% เพราะติดปัญหาระบบการขนส่งทางบกไปจีนและเวียดนาม ทำให้ต้องส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศแทน โดยเฉพาะส่งผ่านแดนไปจีน ลบ 32.8% สิงคโปร์ ลบ 25.1% ส่วนเวียดนาม บวก 40.7%

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากดูตัวเลขการส่งออกไทยย้อนหลัง พบว่า เดือนกรกฎาคม 2565 มีอัตราการขยายตัวต่ำในรอบ 15 เดือน นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ติดลบ 2.8% และจากนั้นก็บวกมาต่อเนื่องตั้งแต่ 8% ถึง 26.6% แต่ในแง่มูลค่ากลับไปใกล้เคียงเดือนเมษายน 2565 สำหรับตัวเลขค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนกรกฎาคม 2565 รวม 150,286 ล้านบาท เพิ่ม 1.85% แยกเป็น ส่งออก 87,788 ล้านบาท ลบ 2.58% นำเข้า 62,498 ล้านบาท บวก 8.79% ไทยได้ดุลการค้า 25,290 ล้านบาท โดยในจำนวนนั้นเป็นค้าชายแดนรวม 84,786 ล้านบาท บวก 24.06% แยก ส่งออก 51,665 ล้านบาท บวก 27.80% นำเข้า 33,121 ล้านบาท บวก 19.65 % ไทยได้ดุลการค้า 18,544 ล้านบาท สำหรับค้าผ่านแดน มีมูลค่ารวม 65,500 ล้านบาท ลบ 17.32% แยกเป็นส่งออก 36,123 ล้านบาท ลบ 27.30% นำเข้า 29,377 ล้านบาท ลบ 0.52% ไทยได้ดุลการค้า 6,746 ล้านบาท โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มการค้าชายแดนผ่านแดน ในปี 2565 ประมาณ 5%

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า การส่งออกในปีนี้จะยังขยายตัวได้ดี มีโอกาสโตได้ 9-11% หากตัวเลขการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนครึ่งปีหลังเกิน 2.3-2.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกิน 8 แสนล้านบาท เพราะได้อานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า และกำลังซื้อสินค้าอาหารและเกษตรของไทยยังสูง แต่ที่กังวลคือการส่งออกในไตรมาสแรกปี 2566 ซึ่งตัวเลขการลดลงจากการผลักดันส่งออกปลายปี และปัญหาการขาดแคลนชิป ผลกระทบจากเงินเฟ้อ กระทบต่อการใช้จ่ายและนำเข้าสินค้าชะลอตัวลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image