“แอสเซท ไฟว์ฯ” เปิดตัวคฤหาสน์หรูแบรนด์ “CINQ ROYAL” ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่

“แอสเซท ไฟว์ฯ” เปิดตัวคฤหาสน์หรูแบรนด์ “CINQ ROYAL” ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ A5 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จับกลุ่มตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Niche Market)เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง เชื่อว่า ยังมีช่องว่างในการสร้างคุณค่าเพิ่มเติมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกมาก และเชื่อว่าการเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง คือ คุณค่าที่ควรมอบให้ลูกค้ามากที่สุด ในปี พ.ศ. 2565 บริษัทฯยังคงเป้าหมายในการดำเนินงานทั้งด้านยอดการรับรู้รายได้ที่ 1,000 ล้านบาท พร้อมแผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงโดยยังเน้นโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลและตลาดที่มีศักยภาพสูงและตรงความต้องการของลูกค้า

โดยตามแผนงานปีนี้จะทยอยเปิดตัว 3 โครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีมูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนา 2 โครงการในจังหวัดอุดรธานี เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับราคา 2.5 – 4 ล้านบาท และที่เป็นไฮไลต์กับอีกหนึ่ง โครงการที่พัฒนาในกรุงเทพฯ โดยบริษัทฯ ลงทุนเอง 100% ภายใต้ชื่อโครงการ “CINQ ROYAL Krungthep Kreetha” (แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา) บนเนื้อที่เกือบ 29 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ จำนวน 48 ยูนิต มีให้เลือก 2 แบบบ้านบนเนื้อที่ดิน 117.5 – 222.3 ตารางวา (ตร.ว.) มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 705 – 1,015 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคา 50-100 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,700 ล้านบาท โดย CINQ ROYAL ถือเป็นแบรนด์ใหม่ ที่วางตำแหน่งการตลาดอยู่ใน Segment สูงที่สุดของ แอสเซท ไฟว์ และจะเป็นแบรนด์ “Flagship” ที่สะท้อนถึงโครงการแนวราบ บนทำเลที่ดีที่สุดที่มีการเติบโตสร้างมูลค่าได้ตลอดกาล และส่งมอบคุณค่าของการอยู่อาศัยครบทั้ง 5 Values of Life ในข้างต้น

“ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่เริ่มต้นการเลือกลงทุนบนทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่สะท้อนคอนเซ็ปต์ 5 Values of Life ได้ครบทุกข้อ จนได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และส่งให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้ตามเป้าหมายทั้งในปีนี้ที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาทโดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีทำรายได้แล้ว 551 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นที่ 34% และกำไรสุทธิที่ 15% และตั้งเป้าการเติบโตด้านรายได้เฉลี่ย 40% ต่อปี จากการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องคาดว่าในปี พ.ศ. 2569 บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท”นายศุภโชคกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image