คิดเห็นแชร์ : บทบาทใหม่ที่ OKMD

ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาผมได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากราชการ ทั้งนี้ด้วยเพราะผมเองได้รับการสรรหาให้เข้าทำหน้าที่ใหม่ และเป็นบทบาทใหม่ในวิชาชีพด้วย โดยได้รับมอบหมายให้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ หรือมีตัวย่อว่า สบร. หรือใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Office of Knowledge Management and Development (OKMD) ซึ่งเป็นองค์การมหาชนภายใต้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี และมีภารกิจในการพัฒนา “พื้นที่เรียนรู้ต้นแบบ” ให้มีความทันสมัย เพื่อการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ส่งเสริมการอ่าน กระตุ้นความอยากรู้และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ให้กับประชาชนทุกเพศ ทุกวัย เพื่อรองรับสังคมยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการเป็นโลกที่ไร้พรมแดน

ผมขอแนะนำหน่วยงานย่อยภายใต้ OKMD ซึ่งปัจจุบันมีเหลือ 2 หน่วยด้วยกัน ได้แก่ อุทยานการเรียนรู้ ที่เป็นห้องสมุดที่มีชีวิต ในชื่อที่รู้จักกันทั่วไปในนาม TK PARK และ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือ Museum Siam

TK Park หรือ อุทยานการเรียนรู้เป็น “ต้นแบบ” แหล่งเรียนรู้ โดยทุกเพศทุกวัยและทุกคนนั้นสามารถเข้าไปศึกษา ค้นคว้า แบบ Beyond Read and Learn ได้เลย ปัจจุบันได้มีการขยายผลไปยังเครือข่ายต่างๆ ทั่วภูมิภาค ปัจจุบันเรามี TK Park อยู่ 30 แห่ง ใน 23 จังหวัด

มิวเซียมสยาม เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ หรือที่เป็นแบบ Discovery Museum นับว่าเป็นต้นแบบของ “พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต” อย่างแท้จริง เพราะว่าเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่เน้นเรื่อง ความทันสมัยในการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ โดยเน้นการเล่าเรื่องราวความเป็นไทย ร้อยเรียงประวัติศาสตร์ให้อยู่ในรูปแบบทันสมัยและกระตุ้นการเรียนรู้ต่างๆ ในการนำเสนอผ่านทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อ ชวนติดตาม และสนุกเพลิดเพลิน สมกับมอตโต้ที่ว่า Play + Learn = Pleon รวมทั้งสร้างเครือข่ายพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่มีด้วยกันทั้งหมด 16 แห่งใน 13 จังหวัด

Advertisement

หลังจากที่ได้เริ่มในบทบาท ผอ.OKMD มาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ (ผมรับตำแหน่งเมื่อ 23 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา) ผมก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมและรับฟังแนวทางการดำเนินงานในปัจจุบันของทั้ง 2 หน่วยย่อยที่ว่าดังกล่าว ซึ่งก็ทำให้ผมกลับมานั่งคิดว่า Next Step ต่อจากนี้ เราคงจะต้องก้าวเข้าไปสู่ในโลกที่เรียกว่า Digitalization แบบเต็มรูปแบบ โดยความตั้งใจก็เพื่ออยากให้เกิด แหล่งเรียนรู้บนแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อ “กระตุกต่อมคิด กระตุ้นความอยากรู้” ให้สังคมไทยสามารถก้าวสู่การเป็น “สังคมอุดมปัญญา” หรือ “Knowledge Society” ซึ่งจะเป็นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่ที่ไร้รอยต่อและไม่มีพรมแดนแห่งการเรียนรู้แลกเปลี่ยน

เพราะผมเชื่อเหลือเกินว่าการมีความรู้คือการสร้างโอกาส หรือ ในสโลแกนที่ว่า “KNOWLEDGE IS OPPORTUNITY” นั่นเอง ครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image