‘อุลตร้าแมน’​ มาแล้ว ร.ฟ.ท.จ่อเปิดหวูดหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า 20 คันแรก วิ่งเข้า ‘บางซื่อ’ ในตุลาฯนี้

ภาพโดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

ร.ฟ.ท.จ่อเปิดหวูดหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ‘อุลตร้าแมน’​ 20 คันแรกวิ่งเข้าสถานีกลางบางซื่อภายใน ต.ค.นี้

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯได้มีการจัดหา และรับมอบ รถจักรดีเซลไฟฟ้า รุ่นใหม่ หรือ หัวรถจักรอุลตร้าแมน มีน้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลา พร้อมอะไหล่ ระยะที่ 1 จำนวน 20 คัน จากกิจการร่วมค้า เอสเอฟอาร์ ได้ดำเนินขั้นตอนการตรวจรับ พร้อมทั้งทำการทดสอบไปแล้ว ส่วนระยะที่ 2 อีก 30 คันนั้น การรถไฟฯเตรียมรับมอบเพิ่ม 15 คัน ในช่วงปลายปี 2565 และในช่วงต้นปี 2565 อีก 15 คัน

นายนิรุฒกล่าวว่า สำหรับระยะที่ 1 จำนวน 20 คันนั้น ขณะนี้การรถไฟฯอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติเพื่อนำไปให้บริการในการขนส่งสินค้า และเดินขบวนรถเชิงพาณิชย์ (รถทางไกล) รวมทั้งการฝึกอบรมพนักงานขับรถไฟกว่า 4,000 คน ซึ่งตอนนี้ฝึกอบรมไปแล้วกว่า 50% นอกจากนี้ จะต้องไปตรวจสอบสภาพแนวเส้นทาง และทำการทดลองวิ่งอีกครั้ง อาทิ ทดลองในเส้นทางผ่านผาเสด็จ เส้นทางผ่านอุโมงค์ช่องเขาไปยัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น เนื่องจากหัวรถจักรอุลตร้าแมนมีขนาดสูงกว่าหัวรถจักรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยมีความสูง 4 เมตร จากหัวรถจักรปกติมีความสูง 3.8-3.9 เมตร

ภาพโดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

นายนิรุฒกล่าวว่า หากทดลองและตรวจเช็กสภาพเส้นทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะนำมาให้บริการได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยใช้ในขบวนรถด่วนพิเศษโดยวิ่งเข้าสถานีกลางบางซื่อ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม หรือใช้ในการขนส่งสินค้าต่อไป สำหรับเส้นทางที่หัวรถจักรอุลตร้าแมนสามารถวิ่งให้บริการได้ เช่น เส้นทางสายเหนือ เส้นทางภาคใต้ไปยัง จ.ตรัง เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ไปยัง จ.หนองคาย เป็นต้น

“ปัจจุบันการรถไฟฯมีหัวรถจักร จำนวน 212 คัน ใช้งานได้ประมาณ 70-80% จากจำนวนทั้งหมด ซึ่งหากรวมหัวรถจักรอุลตร้าแมนอีก 50 คัน ทำให้ในอนาคตการรถไฟฯจะมีหัวรถจักรทั้งสิ้น 262 คัน ส่วนขบวนรถโดยสารปัจจุบันมี จำนวน 700-800 คัน และขบวนรถไฟดีเซลรางอีกประมาณ 200 กว่าคัน (ไม่รวม KIHA 183) ซึ่งปัจจุบันใช้งานจริงอยู่ที่ประมาณ 80%” ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยระบุ

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ขณะที่จำนวนผู้โดยสารในปัจจุบันนั้น จากข้อมูล ณ ต้นเดือนกันยายน 2565 พบว่า การรถไฟฯให้บริการขบวนรถเชิงพาณิชย์ใน 66 เส้นทาง จากทั้งหมด 84 เส้นทาง มีผู้โดยสารประมาณ 20,000 คนต่อวัน ซึ่งผู้โดยสารเริ่มกลับมาแล้วประมาณ 70% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีผู้โดยสารอยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน มีรายได้วันละประมาณ 6-7 ล้านบาท จากเดิมมีรายได้วันละประมาณ 10 ล้านบาท แต่เมื่อช่วงหยุดยาวเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารสูงถึง 28,000-29,000 คนต่อวัน

นายนิรุฒกล่าวว่า ส่วนขบวนรถเชิงสังคมนั้น การรถไฟฯให้บริการ 144 เส้นทาง จากทั้งหมด 152 เส้นทาง ผู้โดยสารเริ่มกลับมาแล้ว 70% เช่นกัน โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารอยู่ที่ 45,000 คนต่อวัน จากในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 มีผู้โดยสารอยู่ที่ 68,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้โดยสารเริ่มกลับมาใช้บริการรถไฟนั้น เนื่องจากนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรป และอินเดีย และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต หากมีการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน

Advertisement
ภาพโดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพโดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพโดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพโดย ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image