‘บิ๊กป้อม’ ห่วงค่าบาทอ่อนซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง จี้ ‘อาคม’ ถกด่วน ธปท.ประคองที่ 35 บาท
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ต้องรอดูว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง จะนัดหารือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อไรในการดูแลค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแตะระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรักษาราชการแทนนายกฯ ห่วงค่าเงินบาทอ่อนเกินไป อาจเกิดเหตุซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540
เมื่อวันที่ 20 กันยายน รายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธาน เป็นห่วงถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในขณะนี้ โดยกำชับไปยังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เร่งหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อประคองให้ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หากเงินบาทอ่อนตัวมากกว่านี้เดี๋ยวจะเหมือนยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ค่าเงินบาทลอยตัวไปถึง 54 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดย พล.อ.ประวิตรพูดทีเล่นที่จริงว่า แบบนั้นตายเลย ขอให้ดำเนินการโดยด่วน
ด้านนายอาคมกล่าวว่า กระทรวงการคลังจะนัดหารือร่วมกับ ธปท.เร็วๆ นี้ถึงสถานการณ์และแนวทางการกำกับดูแล ซึ่งค่าเงินบาทที่อ่อนค่ายังเกิดจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐด้วย ที่แข็งค่าเร็วมากในช่วงนี้ จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
“จากที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้ทำให้ดอลลาร์แข็งค่า ค่าเงินบาทก็อ่อนค่า แต่ไม่ได้อ่อนค่าสุดในภูมิภาค ส่วนไทยจะขึ้นดอกเบี้ยตามหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับธนาคารแห่งประเทศไทย ที่บอกว่าค่าเงินบาทจะต้องลงมาอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์นั้น เราไปกำหนดไม่ได้ ต้องเป็นไปตามกลไกตลาด เพราะอ่อนค่าไปด้านหนึ่งก็ชอบ แต่อีกด้านก็ไม่ชอบ หรือหากค่าเงินแข็งไปอีกด้านหนึ่งก็ดี อีกด้านหนึ่งก็กระทบ ก็ต้องหาจุดสมดุล” นายอาคมกล่าว
นายอาคมกล่าวว่า ประเทศไทยยังเป็นที่น่าดึงดูดของนักลงทุน ทำให้เงินทุนยังไหลเข้าต่อเนื่อง รวมทั้งตลาดทุนแม้จะผันผวนบ้าง แต่การซื้อสุทธิก็ยังคงเป็นต่างชาติ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่น ส่วนกรณีเริ่มมีเม็ดเงินไหลออกจากไทยบ้างแล้วนั้น ทางแบงก์ชาติจับตาอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวถึงทิศทางเงินบาทอ่อนค่าและหลุด 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐว่า ไม่เกินคาดหมายของนักธุรกิจ ที่ค่าเงินบาทจะกระฉอกหรือผันผวนขึ้นลงแรงในช่วงนี้ เพราะทั่วโลกกังวลผลการประชุมเฟด อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังแข็งแรง มีรายได้จากการส่งออกและนักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดยังมีเสถียรภาพ ดังนั้น เงินบาทอ่อนค่าไม่น่าแตะถึง 38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ น่าจะอ่อนค่า 37 บาทเศษๆ อีกระยะหนึ่ง
“ในการคุมต้นทุนนำเข้าขอให้ผู้ประกอบการคิดต้นทุนที่ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เพื่อลดความเสี่ยงตอนส่งมอบสินค้าส่งออกปลายปี และดูจังหวะการนำเข้าที่อัตราแลกเปลี่ยนผันผวนน้อยสุด ขณะที่รัฐบาลต้องดูแลเรื่องค่าดีเซล และค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ควรตรึงให้นานที่สุด เพราะค่าพลังงานและค่าไฟเป็นภาระที่สูงในโครงสร้างต้นทุน” นายชัยชาญกล่าว
