‘อาคม’ ถก ‘แบงก์ชาติ’ สกัดบาทอ่อน จับตา 3 ปัจจัยขึ้นดอกเบี้ย หลังเฟดปรับแล้วสะเทือนหุ้นโลก

‘อาคม’ ถกด่วน ‘แบงก์ชาติ’ สกัดบาทอ่อน จับตา 3 ปัจจัยขึ้นดอกเบี้ย ค่าบาทแตะ 37.15 บาทต่อเหรียญ หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สะเทือนหุ้นโลก

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อติดตามสถานการณ์ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีก 0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ เพื่อลดความร้อนแรงในการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฟดได้ตั้งเป้าว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นไปอีก 4-4.5% ดังนั้น ขณะนี้หลายประเทศรวมถึงไทยยังต้องติดตามว่าการขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งที่ผ่านมา จะส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และจะมีผลอย่างไรกับประเทศไทยด้วย

นายอาคมกล่าวว่า ทั้งนี้ ในการหารือกับ ธปท. ได้ให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยหรือไม่ ได้แก่ 1.อัตราเงินเฟ้อ โดยจะต้องดูว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะมีผลต่อเงินเฟ้อและมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน 2.การขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่ง ธปท.จะต้องมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้แบบปกติ และ 3.เงินทุนเคลื่อนย้าย โดยช่วงที่ผ่านมามีเงินทุนไหลออกบ้าง แต่ยังไม่ถือว่าผิดปกติ ธปท.ก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิด

“ปัจจัย 3 ข้อ คือ เงินเฟ้อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเคลื่อนย้ายของเงินทุน จะให้น้ำหนักในเรื่องใดมากกว่ากันนั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ ธปท. ที่จะเป็นผู้พิจารณาเอง ซึ่งทั้งคลังและ ธปท. ก็มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์มีความผันผวนมาก ธปท.ก็จะเข้าไปดูแล” นายอาคมกล่าว

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 37.25 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.15 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.15-37.40 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

Advertisement

ขณะที่ตลาดการเงินสหรัฐ ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด แต่การคาดการณ์ดอกเบี้ยใหม่สะท้อนว่ายังคงมีแนวโน้มเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องแตะระดับ 4.40% ในปีนี้ และอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยถึง 4.60% ในปีหน้า พร้อมกับคงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปจนถึงปี 2566 เพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อให้สำเร็จ สวนทางกับสิ่งที่ผู้เล่นในตลาดคาดหวังว่าเฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้บ้างในปีหน้า

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทยังมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่องตามทิศทางเงินเหรียญสหรัฐ รวมถึงบรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ซึ่งอาจเห็นแรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ได้ นอกจากนี้ การย่อตัวของราคาทองคำรวมถึงราคาน้ำมันดิบ อาจทำให้มีผู้เล่นบางส่วนเข้าซื้อทองคำและน้ำมันในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวอาจเป็นแรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image