| ผู้เขียน | ปิยะวรรณ ผลเจริญ |
|---|
จอดป้ายประชาชื่น : ไม่ประหยัดไม่รอด!
สัปดาห์ที่ผ่านมา สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประชุมเชิงปฏิบัติการในการขับเคลื่อนแผนพลังงานชาติและภารกิจกระทรวงพลังงานในส่วนภูมิภาค ร่วมกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน และพลังงานจังหวัดประเทศ 76 จังหวัด เพื่อมอบนโยบายขับเคลื่อนพลังงานในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานที่ผันผวน
ประเด็นหนึ่งที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเน้นย้ำคือ กระทรวงพลังงานจะต้องเข้าถึงประชาชน สร้างการรับรู้ถึงการทำงานของรัฐบาลและร่วมกันประหยัดพลังงาน
เพราะประเทศไทยวางมาตรการประหยัดพลังงานให้หน่วยงานราชการประหยัดไฟฟ้าและน้ำมันลง 20% และขอความร่วมมือประชาชนลดใช้พลังงานโดยเฉพาะช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในแต่ละวัน คือเวลา 19.00-21.00 น. พร้อมรณรงค์ประหยัดง่ายๆ 4 วิธี คือ 1.“ปิด” ไฟดวงที่ไม่จำเป็น 2.“ปรับ” แอร์เพิ่ม 1 องศา จาก 25 เป็น 26 องศาเซลเซียส หรือปรับจาก Cool Mode เป็น Fan Mode 3.“ปลด” ปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ใช้งาน และ 4.“เปลี่ยน” ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง อาทิ หลอดไฟ LED
ขณะที่ประเทศแถบยุโรป อิตาลี กำหนดเปิดเครื่องทำความร้อน 19 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว และเปิดเครื่องปรับอากาศ 27 องศาเซลเซียส ในฤดูร้อน โปแลนด์ รัฐบาลอุดหนุนครัวเรือนที่ติดตั้งฉนวนของบ้านและระบบทำความร้อนที่มีประสิทธิภาพสำหรับครัวเรือน
ฟากประเทศแถบอเมริกา อย่างสหรัฐ ประกาศมาตรฐานประหยัดพลังงานขั้นต่ำของเครื่องใช้ไฟฟ้า เม็กซิโก จัดตั้งกองทุนเพื่ออำนวยความสะดวกในการลดการปล่อยมลพิษ
ขณะที่ประเทศเอเชีย อย่างจีน จัดสัปดาห์ประหยัดพลังงานแห่งชาติ ปี 2565 ปิดไฟตกแต่งภูมิทัศน์นอกอาคาร ป้ายชื่ออาคาร ห้างสรรพสินค้าจำกัดเวลาเปิดปิดให้บริการ ญี่ปุ่น ขอความร่วมมือประหยัดไฟนาน 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน 2565) ให้แต้มสะสมเป็นตัวเงินเพื่อจูงใจ และสิงคโปร์ ตั้งเป้าลดใช้ไฟภายในปี 2573 ส่งเสริมใช้หลอดไฟ LED ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
จะเห็นว่าถนนทุกสายทั่วโลกต่างมีหมุดหมายประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง เพื่อฝ่าวิกฤตพลังงานรอบนี้ เพราะถ้าไม่ประหยัดคงไม่รอดเช่นกัน!!
