รัฐจ่อออกแพคเกจปลุก ศก. ของขวัญปีใหม่ ธนารักษ์ใช้ราคาที่ดินใหม่ 1 ม.ค.66 ราคาประเมินพุ่ง 8.9%

แฟ้มภาพ

รัฐจ่อออกแพคเกจปลุก ศก. มอบเป็นของขวัญปีใหม่ ‘ธนารักษ์’ ใช้ราคาที่ดินใหม่ 1 ม.ค.66 ย้ำประชาชนต้องจ่ายภาษีเพิ่ม เผยราคาประเมินพุ่ง 8.9%

เมื่อวันที่ 28 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง จะหารือร่วมกันเพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาหลังจากเดินตาม 2-3 แนวทางที่วางไว้มาถูกทางหรือไม่ อาทิ การปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งต้องดูฟันด์โฟลว์ประกอบด้วย เพราะเงินสำรองที่อยู่ในประเทศเป็นเงินที่นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ถ้าค่าเงินอ่อนมาก อาจทำให้ต่างชาติหาแหล่งฝากอื่นที่ดอกเบี้ยและผลตอบแทนดีกว่าก็ได้

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ จะหารือถึงเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการลดค่าครองชีพประชาชน ส่วนภาวะเงินเฟ้อคิดว่าในปีหน้าคงจะนิ่ง ไม่หวือหวาอะไรมาก ซึ่งในช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2565) รัฐบาลคงต้องมีมาตรการมากระตุ้นเพิ่ม มอบเป็นของขวัญปีใหม่ หรืออาจจะเป็นมาตรการป้องกันการหลงลืม ไม่ใช่มาตรการหลัก โดยใช้งบกลาง เป็นมาตรการด้านภาษี อาทิ ช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกัน ส่วนคนละครึ่งเฟส 6 จะมีหรือไม่คงต้องหารือกัน เพราะตอนนี้เศรษฐกิจเดินไปได้ เข้าสู่โหมดปกติ ไม่ถึงกับแย่ลง จำนวนนักท่องเที่ยว ตัวเลขส่งออก การลงทุนดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าในไตรมาส 4 จะเป็นตัววัดสำคัญความมั่นใจของผู้บริโภคภายในประเทศ หากมีกิจกรรมออกมา จะทำให้ความมั่นใจของผู้บริโภคมีมากขึ้น

“มาตรการหลักเราทำอยู่แล้ว ช่วยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด หนี้ครัวเรือน อาทิ กลุ่มเปราะบาง สหกรณ์ครู แม้ผลกระทบจากตรงนี้ไม่มาก แต่เป็นกว้าง คนเป็น 10 ล้านคนยังเดือดร้อน รายได้ยังไม่มาเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีให้ผ่อนชำระ ยืดหนี้ ชะลอขึ้นดอกเบี้ย มีหลายแบงก์ชะลอถึงสิ้นปีนี้” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

กสิกรไทยลุ้นกนง.ขึ้นดอก 0.25%

รายงานข่าวจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 28 กันยายน คาดว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.00% ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง และอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 16 ปี อย่างไรก็ตาม กนง.คงจะยังทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้า ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และยังคงเปราะบางจากหนี้ในภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง โดย กนง.คงหลีกเลี่ยงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแรง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

Advertisement

รายงานข่าวระบุว่า อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ผลการประชุม กนง.ในครั้งนี้อาจมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ ซึ่งคงจะเป็นอีกจุดสำคัญที่ต้องติดตามในการประชุมทั้งหมด กนง.คงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบต่างๆ ที่ตามมาของการตัดสินใจ ทั้งนี้ หากมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ตามคาด คงมีแรงกดดันให้ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และค่าเงินเหรียญสหรัฐ รวมถึงดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่จะส่งผลต่อแนวโน้มค่าเงินบาทในระยะข้างหน้า

‘พิพัฒน์’ ชงค่าเหยียบแผ่นดินเข้า ครม.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ความคืบหน้าการดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Thailand Traveller Fee) หรือค่าเหยียบแผ่นดิน เพื่อใช้จ่ายในการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้จ่ายในการจัดให้มีการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างท่องเที่ยวภายในประเทศ เบื้องต้นคาดว่าอัตราค่าธรรมเนียมในส่วนของทางบกอยู่ที่ 100-200 บาท ส่วนทางอากาศจะอยู่ประมาณ 300 บาท โดยผลการศึกษาอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทางบก คาดว่าจะเสร็จภายในอีก 3-4 วันนี้ ซึ่งจะจัดทำข้อมูลเพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนตุลาคมนี้

“ต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้า หาก ครม.อนุมัติแล้ว จะเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวได้ทันที ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรัฐบาลไม่ได้ให้เงินอุดหนุนในการดูแลนักท่องเที่ยว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือการสูญเสียชีวิต ต้องเยียวยานักท่องเที่ยวด้วย หากไม่มีอะไรผิดพลาดคาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ต้นปี 2566 ตามแผน” นายพิพัฒน์กล่าว

Advertisement

ธนารักษ์ใช้ราคาที่ดินใหม่ 1ม.ค.66

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมยืนยันว่าจะมีการประกาศใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบใหม่ของปี 2566-2569 เริ่มวันที่ 1 มกราคม 2566 เพราะประเมินว่าขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์เหมาะสมแล้ว โดยเศรษฐกิจกำลังมีฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ อีกทั้งสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดก็คลี่คลาย มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเปิดประเทศเต็มรูปแบบ จึงไม่จำเป็นต้องเลื่อนออกไปอีก โดยภาพรวมราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่จะเริ่มใช้ปีหน้าจะมีมูลค่าปรับขึ้นเฉลี่ย 7-8% ราคาประเมินสูงสุดยังเป็นพื้นที่ทำเลใจกลางเมืองกรุงเทพฯ

“ปกติบัญชีราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบใหม่ จะมีการประกาศทบทวนใหม่ทุกๆ 4 ปี แต่ราคาประเมินที่ใช้ในปีหน้า จะเป็นราคาที่ประเมินไว้ตั้งแต่ 2 ปีก่อน เพราะปีที่แล้วมีการเลื่อนใช้จากโควิด จึงไม่ได้มีการทบทวนใหม่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้หากพื้นที่พัฒนาไปมาก และราคาประเมินที่ใช้อยู่ไม่เหมาะสม คณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินประจำจังหวัดก็มีอำนาจพิจารณาทบทวนหรือปรับเพิ่มราคาประเมินเป็นรายแปลงได้เอง โดยอิงจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป อาทิ หากมีสะพาน หรือถนนใหม่ตัดผ่าน รวมถึงมีการลงทุนโครงการรถไฟฟ้า ทางด่วนขึ้นมา แต่ละจังหวัดมีอำนาจปรับราคาประเมินใหม่ได้ตลอดเวลา” นายประภาศกล่าว

นายประภาศกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากมีการปรับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ในปีหน้า อาจจะส่งผลให้ประชาชนที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะการเก็บภาษีที่ดินจะใช้ราคาประเมินที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างของกรมธนารักษ์มาเป็นฐานประเมินในการคำนวณภาษี ส่วนจะมีมาตรการบรรเทาภาระผู้เสียหรือไม่ ก็เป็นอำนาจของท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณา

ราคาที่ดินจริงเฉลี่ยขึ้น 8.9%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีการประเมินราคาที่ดินแบ่งทั้งหมดเป็น 33 ล้านแปลง โดยภาพรวมทั่วประเทศปรับขึ้นเฉลี่ย 8.9% โดยพื้นที่กรุงเทพฯ ปรับขึ้นประมาณ 3% และต่างจังหวัดประมาณ 8% ส่วนใหญ่การเปลี่ยนแปลงอยู่ทำเลแนวรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ถนนตัดใหม่ และพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

สำหรับราคาประเมินที่ดินสูงสุดยังอยู่ในกรุงเทพฯ 1 ล้านบาทต่อตารางวา อยู่บริเวณ ถนนสีลม เพลินจิต วิทยุ พระรามที่ 1 รองลงมา ถนนสุขุมวิท 7.5 แสนบาท ถนนรัชดาภิเษก 4.5 แสนบาท ถนนเพชรบุรี 3 แสนบาท ถนนพหลโยธิน 2.5 แสนบาท

สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีราคาสูงสุดอยู่ใน 3 จังหวัดพื้นที่อีอีซี ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง มีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20-30% โดยราคาที่ขึ้นสูงสุดอยู่บริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟความเร็วสูง อาทิ จ.ชลบุรี ปรับขึ้น 42.83% ราคาสูงสุดอยู่ถนนเลียบหาดพัทยา อ.บางละมุง 2.2 แสนบาท

ซึ่งหลังมีการประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่แล้ว หากต่อไปพบว่าราคาตลาดมีการปรับสูงขึ้นกว่าราคาประเมินเกิน 15% คณะกรรมการประจำจังหวัดก็มีอำนาจที่จะปรับประเมินราคาใหม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image