ค่าเงินผันผวนหนักลุ้นนโยบายเศรษฐกิจทรัมป์ เปโซเม็กซิโกอ่อนค่าสุดรอบ70ปี

นายจิติพล พฤกษเมธานันท์ รองผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบีอนาไลติกส์) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันที่ 14 พฤศจิกายน เปิดที่ระดับ 35.43 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ปิดที่ 35.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยความความเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐจะยังคงปั่นป่วนตลาดส่งผลให้เกิดแรงขายลดความเสี่ยงในตลาดเกิดใหม่ มองแนวโน้มเงินบาทจะแกว่งตัวกว้างในสัปดาห์นี้ คาดกรอบอยู่ที่ 35.25-35.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ที่อาจจะมีการกีดกันทางการค้า ทำให้ค่าเงินเปโซของเม็กซิโกอ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการใช้สกุลเงินเปโซ ในปี 2489 หรืออ่อนค่าในรอบ 70 ปี อยู่ที่ 20.73 เปโซต่อดอลลาร์สหรัฐ ด้านเงินหยวนของจีน อ่อนค่าในรอบ 6 ปี อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ระดับ 6.82 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งยังส่งผลต่อค่าเงินของกลุ่มประเทศที่เข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(ทีพีพี) อาทิ ดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่า 2.34% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 1.92% ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่า 1.79% ริงกิตของมาเลเซียอ่อนค่า 1.69% เยนของญี่ปุ่นอ่อนค่า 1.56% ขณะที่ไทยซึ่งไม่ได้เข้าร่วมในทีพีพี ค่าเงินบาทอ่อนค่าไม่มากนักเพียง 0.59%

นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ยังต้องติดตามตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นไตรมาสที่ 3 ในวันที่ 14 และ 15 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งศูนย์วิเคราะห์มองว่าทั้งสองเศรษฐกิจจะยังเติบโตได้ที่ระดับ 0.2-0.6% จากไตรมาสก่อน สะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกยังพอฟื้นตัวได้

“ค่าเงินยังมีแนวโน้มอ่อนค่าตามดอลลาร์สหรัฐที่อาจจะแข็งค่าต่อเนื่อง หากตลาดยังเชื่อว่านโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์จะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ ขณะที่ต้องระวังการออกมาต่อต้านของประชาชนสหรัฐและการออกมาให้ความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาต่างๆ ซึ่งถ้าเฟดเริ่มมองความไม่แน่นอนจากการเมืองเป็นความเสี่ยงจนต้องเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสปรับตัวอ่อนค่าลงแรงได้” นายจิติพลกล่าว

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image