‘สุพันธุ์’ ชี้ รบ.ไร้ศักยภาพดึง ‘ไบเดน’ ร่วมเอเปค หนุนใช้กลไกอาเซียนเพิ่มอำนาจต่อรองมหาอำนาจ

‘สุพันธุ์’ ชี้ รบ.ไร้ศักยภาพดึง ‘ไบเดน’ ร่วมเอเปค หนุนใช้กลไกอาเซียนเพิ่มอำนาจต่อรองกับมหาอำนาจ

 

จากกรณีที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธการเข้าร่วมประชุมเอเปค ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน เนื่องจากติดเหตุผลทางครอบครัว โดยนายโจ ไบเดน จะบินกลับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทันที หลังจากการประชุม จี20 ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายน ที่บาหลี อินโดนีเซีย และมอบหมายให้นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี มาเป็นผู้แทนในการประชุมเอเปค

 

สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายโจ ไบเดน ไม่มาเยือนไทยในครั้งนี้นั้น แสดงถึงความไร้ศักยภาพในเวทีโลกของรัฐบาล ที่ไม่สามารถชักชวน หรือดึงให้ผู้นำประเทศมหาอำนาจเข้ามาร่วมประชุมได้ ทั้งที่การประชุมเอเปคครั้งถัดไปจะมีสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ การที่ประธานาธิบดีสหรัฐมาประชุม จี20 แต่ไม่มาร่วมประชุมเอเปคสะท้อนว่าไทยเองไม่มีจุดยืนที่แข็งแรงพอบนเวทีโลก และไม่กล้าที่จะแสดงออกถึงความสำคัญของตนในทางการค้ามากเพียงพอ

Advertisement

 

ท่าทีดังกล่าวสะท้อนว่าทุกประเทศเองย่อมต้องสนใจผลประโยชน์ของประเทศตัวเองเป็นหลัก ดังนั้น ในปัจจุบันที่สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของไทยยังมีปัญหา ไทยเองก็ต้องแสดงออกถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาของประเทศเราเอง เช่นไทยอาจต้องซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพื่อพยุงอัตราเงินเฟ้อ และลดการขาดดุลการค้า เพราะที่ผ่านมา แม้ตัวเลขส่งออกของประเทศเราจะสูงขึ้น แต่ก็ยังขาดดุลการค้าอยู่ หากเราเลือกตัดสินใจซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ไม่ได้สะท้อนว่าเรากำลังจะกระด้างกระเดื่องกับมหาอำนาจ แต่เป็นการแสดงจุดยืนว่าไทยเองต้องรักษาสมดุลด้านเศรษฐกิจและลดอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ในขณะที่ทุกประเทศนั้นให้ความสำคัญกับประเทศตัวเองเป็นหลัก ไทยก็ต้องทำแบบเดียวกัน

 

Advertisement

นายสุพันธุ์เสนอว่า ไทยและชาติอาเซียน ต้องใช้กลไกอาเซียนให้เป็นประโยชน์มากขึ้น ชาติอาเซียนต้องจับมือกันพัฒนาและออกแบบกลไกทางเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อที่จะมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น เพราะอาเซียนเองเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก ทั้งยางพารา และสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการบริโภค ทั้งข้าวและน้ำมันปาล์ม รวมถึงได้เปรียบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นฐานการผลิตสินค้าต่างๆ ที่จะส่งออกไปทั่วโลก

 

นายสุพันธุ์ย้ำจุดยืนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือชาติอาเซียนนั้นแข่งกันเองทั้งด้านผลผลิต การค้าการส่งออก และการเป็นฐานการผลิตและลงทุน สิ่งที่ผู้นำชาติอาเซียนต้องทำคือพูดคุยกันและจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัวว่าใครจะผลิตอะไร ใครมีศักยภาพด้านใด จะผลิตเท่าไหร่ เพื่อที่จะไม่ต้องแย่งตลาดกันเกินไป ในด้านฐานการผลิตเองก็ต้องจับมือกันเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง ไม่ใช่ต่างคนต่างให้ผลประโยชน์แก่ชาติมหาอำนาจตัดราคาเพื่อนบ้านกันเองเพราะสุดท้ายจะไม่มีชาติใดในอาเซียนที่ได้ผลประโยชน์จริงแต่จะถูกกดราคาลงแทน

 

“ชาติในอาเซียนต้องจับมือกันให้แน่นขึ้น ไม่ใช่แค่จัดประชุมจัดงานเลี้ยง ล้อมวงจับมือถ่ายภาพกัน แต่เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองกับมหาอำนาจ” นายสุพันธุ์ทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image