อุตุฯ ยันไทยรอดแน่ ไต้ฝุ่นตัวใหม่ ‘กุหลาบ-โรคี’ มุ่งหน้าเกาหลี ญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 30 กันยายน นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังจากพายุโนรู ยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
นางสาวชมภารีกล่าวว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่ชัดว่า จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝนปีนี้ ประเทศไทยจะเจอพายุอีกกี่ลูก เพราะต้องรอให้เกิดการก่อตัวบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก กระทั่งเกิดเป็นพายุไต้ฝุ่น มีชื่อเรียกชัดเจน จึงจะสามารถคาดการณ์ทิศทาง และประเมินสถานการณ์เบื้องต้นได้ และสำหรับพายุไต้ฝุ่นกุหลาบ และโรคี ขณะนี้เคลื่อนตัวไปยังทิศเหนือ บริเวณประเทศไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
“ประเทศไทยตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ดี มีหลายองค์ประกอบช่วยบรรเทาความรุนแรงของพายุให้อ่อนกำลังลงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรมีแผนบริหารจัดการในระยะยาว รวมถึงการเร่งแก้ไขผังเมือง เพราะบางแห่งขวางทางเดินน้ำ ทำให้ไม่สามารถระบายได้อย่างรวดเร็ว” นางสาวชมภารีกล่าว
สำหรับช่วงเย็นถึงค่ำที่หลายคนสัมผัสได้ถึงอากาศเย็น อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า เป็นลมเย็นจากฝน ไม่ใช่สัญญาณที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เกณฑ์การพิจารณาเข้าสู่ฤดูหนาวของไทย ประกอบด้วย 1.อุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป (อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส) อย่างต่อเนื่อง 2.ลมระดับล่าง (ที่ความสูงประมาณ 100-3,500 ม.) เป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบน (ที่ความสูงประมาณ 5,000 ม.ขึ้นไป) เป็นลมฝ่ายตะวันตก และ 3.ปริมาณและการกระจายของฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง
