เอกชนภูเก็ตโอดบินตรงไม่ได้ ทั้งที่ดีมานด์มี-ตารางบินยังเหลือ
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ปัญหาสำคัญในตอนนี้เป็นเรื่องเที่ยวบิน โดยเฉพาะเที่ยวบินตรงที่เคยมีปรับลดลง บวกกับจากเดิมที่เคยบินตรงเข้ามา ก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางบินไปเข้าสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองแทน อาทิ ล่าสุดมีไฟล์ทจากอิตาลี เปลี่ยนไปบินลงสุวรรณภูมิแทน ก่อนจะต่อเครื่องบินมาลงภูเก็ตอีกที ทั้งที่ความจริงสามารถบินตรงเข้าภูเก็ตได้เลย จึงเกิดคำถามว่าทำไมจึงไม่บินมาภูเก็ตรวดเดียว เพราะมีศักยภาพในการเป็นฮับการบินอยู่แล้ว โดยสนามบินส่วนกลางที่มีความพร้อมและมีศักยภาพมากอยู่แล้ว ก็ต้องการให้สร้างความต้องการ (ดีมานด์) ใหม่ขึ้นมา
“หากจะบอกว่าติดเรื่องตารางบิน (สล็อต) ที่ไม่เพียงพอ ก็ต้องบอกว่าสนามบินภูเก็ตมีขีดความสามารถในการรองรับ (คาพาซิตี้) จำนวน 480 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งปัจจุบันในวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีสล็อตเที่ยวบินเข้าและออกอยู่ที่ 178 เที่ยวบินเท่านั้น แบ่งเป็นบินในประเทศ 103 เที่ยว ระหว่างประเทศ 75 เที่ยว ซึ่งยังเหลือขีดความสามารถในการรองรับอีกมาก โดยมีการหารือกับสายการบินที่เข้ามาบ้าง ก็บอกว่าบินตรงมาภูเก็ตไม่ได้ เพราะสล็อตไม่มี แต่จากคาพาซิตี้ก็เห็นว่ายังมีเหลืออยู่มาก” นายธเนศ กล่าว
นายธเนศ กล่าวว่า การสนับสนุนให้สายการบินแห่งชาติของไทย เสริมเส้นทางบินของประเทศต้นทาง ที่มีดีมานด์เข้ามาเที่ยวไทย โดยเฉพาะภูเก็ต อาทิ เกาหลีใต้ รัสเซีย ที่มีความตื่นตัวในการเข้ามาเที่ยวภูเก็ต เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเชื่อว่าไม่ได้เที่ยวแค่ในภูเก็ตเท่านั้น แต่มักเดินทางกระจายไปเที่ยวต่อในจังหวัดอื่น หรือพื้นที่ใกล้เคียงด้วย อาทิ พังงา กระบี่ กรุงเทพฯ และภาคเหนือ ซึ่งตรงกับนโยบายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้วย
นายธเนศ กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ตอนนี้เห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลปลดล็อกการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านสนามบิน ประมาณ 5,000 คนต่อวัน โดยคาดว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2565 (ตุลาคม-ธันวาคม) คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัวประมาณ 30% สร้างรายได้กลับมา 50% เทียบกับปี 2562 ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งตลาดต่างชาติที่เข้ามาหลักๆ ได้แก่ อินเดีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่ระยะใกล้เป็นหลัก ระยะไกลอย่างยุโรป สหรัญ อยู่ระหว่างการเติบโต
นายธเนศ กล่าวว่า ประเมินเฉพาะภูเก็ต มีต่างชาติที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ 2 ประเทศ ได้แก่ 1.จีน คิดเป็น 40% ของตลาดรวม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปล่อยให้พลเมืองออกเดินทางต่างประเทศ และ 2.รัสเซีย คิดเป็น 10% ที่ตอนนี้มีปัญหาเรื่องสงครามระหว่างยูเครน ทำให้เดิมประเมินว่าปลายปีนี้ ชาวรัสเซียจะเข้ามาเที่ยวไทยดีขึ้น แต่ปัจจุบันที่ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ทำให้ทั้ง 2 ตลาดนักท่องเที่ยวหลักหายไปรวมกว่า 50% แล้ว โดยหากเทียบกับปี 2562 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นขึ้นมา 20% เท่านั้น สร้างรายได้ 40% รายได้ที่ฟื้นตัวมากกว่า เป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามามีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าอดีต
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึง 7 ตุลาคม 2565 เป็นช่วงเปิดประเทศเต็มรูปแบบ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวภูเก็ตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อินเดีย จำนวน 1.3 แสนคน 2.ออสเตรเลีย 6.2 หมื่นคน 3.สิงคโปร์ 5.1 หมื่นคน 4.มาเลเซีย 3.7 หมื่นคน และ 5.อังกฤษ 3.4 หมื่นคน
