ผวาน้ำมันหวน “ขาขึ้น” อีก ภาระค่าครองชีพ-ขย่มเศรษฐกิจ

ผวาน้ำมันหวน “ขาขึ้น” อีก ภาระค่าครองชีพ-ขย่มเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า กรณีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ลดโควต้าการผลิตน้ำมันดิบลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้ค่อนข้างน่ากังวลว่า ราคาน้ำมันจะดีดกลับขึ้นอยู่ในโซนที่สูงอีก สะท้อนได้จากที่พอโอเปคประกาศผลประชุมออกมา ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นทันที โดยเดิมคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าจะเคลื่อนไหวระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรล แต่หากเกิดวิกฤตในตลาดน้ำมันราคาจะปรับขึ้นไปที่ 110 เหรียญต่อบาร์เรลได้

“กำลังการผลิตที่ลดลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะทำให้ตลาดน้ำมันตึงตัวมาก สุดท้ายน้ำมันอาจไม่เพียงพอต่อความต้อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นไป จากก่อนหน้านี้ที่ราคาปรับลดลงมาแล้ว” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันที่แพงขึ้นส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้ภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันปรับลดลงมา มองว่าเงินเฟ้อน่าจะลดลงตาม แต่พอราคาน้ำมันดีดขึ้น เงินเฟ้ออาจไม่ได้ปรับลดลงเร็วอย่างที่คาดไว้ กระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน และทำให้เศรษฐกิจติดลบด้วย ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศให้เต็มศักยภาพ ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาให้มากที่สุด นโยบายการคลังต้องไม่ใช้การกระตุ้นมากเกินไป เพราะเงินเฟ้ออาจพุ่งขึ้นอีก แต่เน้นช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางแบบถูกจุด ส่วนนโยบายการเงินจะต้องดูแลเงินเฟ้อ ควบคุมไม่ให้ค้างในระดับสูงต่อเนื่องนานเกินไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image