ธุรกิจร้านอาหารขอรัฐบาลแจกของขวัญปีใหม่ ทั้งกระตุ้นใช้จ่าย-ลดต้นทุน
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า คนในภาคธุรกิจร้านอาหารอยากขอของขวัญปีใหม่จากนายกรัฐมนตรี โดยเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ดึงดูดใจให้ใช้บริการร้านอาหารมากขึ้น เกิดการทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาร้านอาหารยังไม่เคยได้รับมาตรการกระตุ้นการใช้บริการเพิ่มเลย แม้มีโครงการคนละครึ่ง แต่ก็เป็นการสนับสนุนใช้จ่ายร้านอาหารขนาดเล็กแบบสตรีทฟู๊ดมากกว่า ส่วนร้านอาหารขนาดกลางขึ้นไป ยังไม่มีการกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการเพิ่มขึ้นเลย ทั้งที่ความจริงแล้วร้านอาหารระดับนี้มีการแข่งขันสูงมาก รวมถึงต้นทุนก็เพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการ รวมถึงร้านอาหารกลุ่มนี้มักมีการรักษาพนักงานหรือการจ้างงานไว้ด้วย
“ในภาคการท่องเที่ยวเราเห็นการกระตุ้นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่สร้างเงินสะพัดหลักหมื่นล้านบาท แต่พิจารณาการใช้เงินส่วนที่เป็นร้านอาหารมีหลัก 100 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้จ่ายร้านอาหารในโรงแรม หรือร้านของฝากมากกว่า จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาหามาตรการกระตุ้นใช้จ่ายให้ร้านอาหารขนาดกลางโดยตรง หรือเป็นมาตรการช่วยลดต้นทุน จำพวกภาษีทั้งหมด และการชำระหนี้เงินกู้ผ่านสถาบันการเงินต่างๆ เพราะขณะนี้รายจ่ายทั้งหมดกลับมาแล้ว แต่รายได้ยังไม่กลับมาเป็นปกติ” นางฐนิวรรณ กล่าว
นางฐนิวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังซื้อในภาพรวมยังมีอยู่ แต่เป็นกลุ่มระดับบนขึ้นไป ซึ่งส่วนมากจะไปใช้ในต่างประเทศ อาทิ ไปเที่ยวญี่ปุ่น ทำให้การใช้จ่ายในประเทศเกิดจากกลุ่มชนชั้นกลางลงล่าง ซึ่งกำลังซื้อของคนตั้งแต่ระดับกลางลงมามีความลำบากมาก เพราะกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้ต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยร้านอาหารในระดับกลางลงมาก็ใช้กลยุทธ์ในการดึงดูดลูกค้าแบบเต็มความสามารถมากกว่าเดิม เป็นการใช้ทุกวิธี เพราะตอนนี้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนใจไปใช้บริการร้านอาหารอื่นได้ทุกเมื่อ ทั้งที่แต่ก่อนร้านอาหารสามาราทำธุรกิจได้ง่ายกว่านี้ เนื่องจากลูกค้าสามารถตัดสินใจใช้บริการตามอารมณ์ได้เลยด้วยซ้ำ
นางฐนิวรรณ กล่าวว่า แนวโน้มการใช้จ่ายและธุรกิจในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 นี้ คาดหวังว่าจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะ 2 ปีที่ผ่านมามีการระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องงดการฉลองปีใหม่ติดกัน 2 ปี จึงคาดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะคิดถึงบรรยากาศการสังสรรและเฉลิมฉลองปีใหม่ร่วมกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมามีวันหยุดยาวหลายช่วง ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ถือว่าช่วยกระตุ้นได้จริง แต่ในแง่ของการใช้จ่ายเนื่องจากกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ทำให้คนใช้จ่ายน้อยลงกว่า การหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศจึงไม่ได้ดีอย่างที่คาดไว้ สิ่งที่ต้องการคือ รัฐบาลต้องกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น เพราะต่างชาติที่ออกเที่ยวตอนนี้เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงในการใช้จ่าย จึงต้องดึงเข้ามาเที่ยวไทยให้ได้มากที่สุด
