“พิษภาษีแพง-ไร้คนรับช่วง” บีบเจ้าของโรงเรียนเอกชนตัดใจขายที่ดิน

“พิษภาษีแพง-ไร้คนรับช่วง” บีบเจ้าของโรงเรียนเอกชนตัดใจขายที่ดิน

วันที่ 26 ตุลาคม นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา มีโรงเรียนเอกชนในระบบทั่วประเทศยื่นขอเลิกกิจการจำนวนมาก เพราะประสบกับปัญหาขาดทุน มีจำนวนเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาลดลง ซึ่งโรงเรียนเอกชนอยู่แนวรถไฟฟ้าที่มีปัญหาขาดทุนหรือหาผู้สืบทอดกิจการไม่ได้ ตัดสินใจขายที่ดินออกมาค่อนข้างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะขนาดที่ดินของโรงเรียนค่อนข้างใหญ่ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดยิ่งเพิ่มศักยภาพของที่ดินสูงขึ้น ทำให้บางแห่งเจ้าของที่ดินไม่ต่อสัญญาหรือไม่มีผู้รับช่วงกิจการหรือจำนวนนักเรียนลดจากปัญหาต่างๆ เมื่อเลิกกิจการจะขายที่ดินออกไป เนื่องจากได้รับข้อเสนอราคาที่ดินที่น่าสนใจ เพราะราคาที่ดินสูงเกินกว่า 100,000 – 1 ล้านบาทต่อตารางวา

“ช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา ยังคงเห็นข่าวการปิดตัวของโรงเรียนเอกชนหลายระดับการศึกษาต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แม้หลายโรงเรียนจะเปิดมากว่า 50 ปี เพราะราคาที่ดินที่สูงขึ้น สวนทางกับรายได้ของโรงเรียนเอกชนที่ลดลงต่อเนื่อง อนาคตคาดว่าที่ดินเคยเป็นโรงเรียนเอกชน จะทยอยเปลี่ยนมือมากขึ้น เพราะเมื่อไม่ได้เป็นโรงเรียนและยกเลิกใบอนุญาตแล้วก็ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะเป็นแรงกดดันใหม่ให้กับเจ้าของที่ดิน ส่วนโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในอดีต อาจแค่รอเวลาที่เหมาะสมในการเลิกกิจการ เพราะรายได้ปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการดำเนินกิจการแล้ว โรงเรียนที่มีที่ดินใหญ่โต มีหลายอาคารอาจจะให้เช่าที่ดินหรืออาคารบางส่วนกับบุคคลหรือเอกชนรายอื่นๆ เพื่อหารายได้”นายสุรเชษฐกล่าว

นายสุรเชษฐกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีโรงเรียนและสถาบันการศึกษาเอกชนบางส่วนที่เปลี่ยนเป็นโครงการประเภทอื่นๆ เช่น โรงเรียนอนุบาลดาริกา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมของเอสซี แอสเสท, โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์เป็นโครงการคอนโดมิเนียมของเอพี (ไทยแลนด์),โรงเรียนปานะพันธุ์วิทยา เป็นบิ๊กซี ลาดพร้าว, โรงเรียนอินทรอาชีวะศึกษา เป็นโรงแรมพระยาพาลาซโซ่, โรงเรียนช่างฝีมือปัญจวิทยา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์,โรงเรียนประชาราษฎร์พิทยา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมของริชี่เพลซ 2002  เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2563 โรงเรียนพณิชยการสยาม ในพระอุปถัมภ์ฯ อยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ระหว่างซอย 56และ52  อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งเลิกกิจการเมื่อปี 2560 ได้ประกาศขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่กว่า 10 ไร่ ตั้งราคาขาย 650  ล้านบาท

Advertisement

ล่าสุดจากการสอบถามเจ้าของที่ดินระบุว่า ปัจจุบันตั้งราคาขายอยู่ที่ 450  ล้านบาท ซึ่งปรับลดลงจากเดิม เนื่องจากที่ดินตั้งอยู่ในซอยแคบมีผลให้มูลค่าที่ดินลดลง เพราะสามารถสร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 8 ชั้น ส่วนสาเหตุที่ปิดโรงเรียนและขายที่ดิน เพราะไม่มีผู้สืบทอดธุรกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image