ซีพีเอฟทุ่มกว่า 3 หมื่นล.ฮุบบริษัทสหรัฐ หวังขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของโลก

น.ส.พัชรา ชาติบัญชาชัย เลขานุการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือแจ้งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า บริษัทย่อยได้เข้าซื้อเงินลงทุนทั้งหมดในBellisio Parent, LLC. จากBellisio Consolidated Equity, LLC ในราคารวมทั้งสิ้น 1,075 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 38,161 ล้านบาท โดยBellisio Parentเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2553 โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานแบบ Single Serve ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับที่ 3 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ตราสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่น Michelinan’s, Boston Market, Chillin’s และ Atkins เป็นต้น รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพซึ่งมีจุดเด่นด้านคุณภาพและโภชนาการภายใต้ตราสินค้า EatingWell และ EAT! ซึ่งกลุ่มบริษัทเพิ่งวางจำหน่ายเมื่อเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ Bellisio ยังเป็นผู้นำตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานแบบ Single Serve ในประเทศแคนนาดาอีกด้วย โดยปัจจุบันกลุ่ม Bellisio มีโรงงานรวมทั้งสิ้น 4 โรงงาน ตั้งอยู่ในรัฐโอไอดอ รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐมินนิโซตา และทาง Bellisio มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ค้าปลีกชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา และด้วยทำเลที่ตั้งของโรงงานซึ่งมีระบบการผลิตที่เป็นเลิศในรัฐโอไอโอ ยังเอื้อให้กลุ่ม Bellisio สามารถกระขายสินค้าครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ภายใน 24 ชั่วโมงและทั่วประเทศภายใน 48 ชั่วโมง ทั้งนี้สำหรับผลประกอบการของ Bellisio ในปี2556 มีผลขาดทุน 774 ล้านบาท ปี 2557 มีผลขาดทุนสุทธิ 667 ล้านบาท และปี 2558 มีผลขาดทุนสุทธิ 501 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับผลประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับคือกลุ่ม Bellisio จะเป็นฐานสำคัญของซีพีเอฟในการเข้าสู่ตลาดธุรกิจอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากกลุ่ม Bellisio มีธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งและมีตราสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วไป โดยหนึ่งในตราสินค้าที่สำคัญและประสบความสำเร็จที่สุดในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ได้แก่ Michelinan’s อีกทั้งกลุ่ม Bellisio จะเป็นช่องทางให้ซีพีเอฟส่งออกสินค้าของตนเอองเข้าสู่ทวีปอเมริกาเหนือได้ โดยใช้เครือข่ายการกระจายสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ค้าปลีกรายสำคัญของกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Bellisio และซีพีเอฟสามารถใช้จุดแข็งของตนเพื่อผนึกศักยถาะในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน เช่น การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปสู่ผู้บริโภครายย่อย โดยใช้ความสัมพันธ์ที่ซีพีเอฟมีกับผู้ค้าปลีกสำคัญ และการต่อยอดเข้าสู่ตลาดสินค้าและธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในกลุ่มอาหารเอเชีย ซึ่งซีพีเอฟมีความเชี่ยวชาญและมีเครือข่ายในเอเชียและประเทศต่างๆ ทั่วโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้บริษัทซีทีซีไอซึ่งเป็นย่อยของซีพีเอฟแจ้งเข้าไปซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ฟูเจี้ยน ซัมโป ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์บก เลี้ยงและจำหน่ายไก่และผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ ในมณฑลฟูเจี้ยน ในประเทศจีน สัดส่วน 70% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้ว หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 1,688 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฟูเจี้ยน ซัมโป มีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของซีพีเอฟ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image