น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ยอดขอจดตั้งบริษัทใหม่ เดือนตุลาคม 2559 มีจำนวน 5,092 ราย ลดลง 3% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งไม่ได้สะท้อนว่าการจัดตั้งธุรกิจฝืดตัว เพราะยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 5,000 ราย จึงไม่น่าเป็นห่วง หากเทียบกับภาวะเศรษฐกิจโลกและการส่งออกขยายตัวไม่สูง คาดว่า 2 เดือนที่เหลือปีนี้ น่าจะจดตั้งเฉลี่ยเดือนละ 5,000 ราย ก็จะทำให้ทั้งปี 2559 มียอดจดตั้งบริษัทใหม่ถึง 60,000 ราย ตามเป้าหมาย จาก 10 เดือนแรก มียอดจดตั้งบริษัทใหม่แล้ว 5.4 หมื่นราย หรือเพิ่มขึ้น 3% ปัจจัยหนุนจากมาตรการส่งเสริมภาครัฐ เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้ การคงภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) และภาษีธุรกิจเฉพาะ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดาให้มาจดทะเบียนนิติบุคคลมากขึ้น
ทั้งนี้ ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรกในเดือนตุลาคม ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 563 ราย รองลงมาคือ ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ 388 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 291 ราย ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 148 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 137 ราย
“ปีหน้าคาดว่าจะมียอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ประมาณ 6-6.5 หมื่นราย ปัจจัยหนุนยอดจดตั้งบริษัทใหม่ปีหน้าเพิ่ม เนื่องจากรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านขายทองจดเป็นนิติบุคคล ซึ่งปีนี้มียอดขอจดแล้ว 40% ของทั้งหมด 7,000 ราย รวมถึงร้านขายยาอีก 4,215 ราย ตามนโยบายภาครัฐบาลจะผลักดันธุรกิจต่างๆเข้าระบบนิติบุคคลเพิ่มขึ้น เพื่อได้รับความช่วยเหลือในอนาคต ” น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าว
น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า ขณะที่ยอดจดเลิกธุรกิจเดือนตุลาคมอยู่ที่ 1,588 ราย ลดลง 27% เทียบปีก่อน ส่งผลให้ 10 เดือนของแรกปีนี้ เลิกธุรกิจแล้ว 1.34 หมื่นราย ลดลง 4% ถือว่ายังปกติ คาดว่าทั้งปีนี้จะมียอดเลิกธุรกิจไม่เกิน1.5 หมื่นรายใกล้เคียงปีที่ผ่านมา
