คลังปิด 3 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินสะพัด 4.26 หมื่นล้าน ดันจีดีพีได้ 0.12%

คลังปิด 3 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เม็ดเงินสะพัด 4.26 หมื่นล้านบาท ดันจีดีพีได้ 0.12%

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการดำเนินมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศปี 2565 ระยะที่ 2 ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ ทั้งนี้ มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิรวมทุกโครงการสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน-31 ตุลาคม 2565 จำนวน 38.27 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสมรวมทั้งสิ้น 42,638.7 ล้านบาท

นายพรชัยกล่าวว่า โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้ 1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิ จำนวน 13.17 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 5,185 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิ จำนวน 1.08 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 394 ล้านบาท และ 3.โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 มีผู้ใช้สิทธิ จำนวน 24.02 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 37,058.6 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น เงินที่ประชาชนจ่าย จำนวน 18,879.6 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่าย จำนวน 18,179.0 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ามีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ทั้งสิ้น 9.72 แสนราย

นายพรชัยกล่าวอีกว่า มาตรการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าเป็นอย่างดี โดยมีการประมาณการว่ายอดการใช้จ่ายตามมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทั้งปี 2565 เพิ่มขึ้น 0.12% ต่อปี และการบริโภคภาคเอกชนทั้งปี 2565 เพิ่มขึ้น 0.58% ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีไม่มีการดำเนินโครงการทั้ง 3 โครงการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของมาตรการในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย รักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ และสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image