เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเวทีรับฟังข้อเสนอแนะโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือ ฟู้ดอินโนโพลิส (Food Innopolis) โรงแรมพลาซ่า แอทธินี หลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แนะนำให้เร่งดึงภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้มีผู้บริหารจากภาคเอกชนรายใหญ่เข้าร่วม อาทิ บมจ.ไทยยูเนียน กรุ๊ป บมจ.เบทาโกร บมจ.สุรพลฟู้ดส์ บจก.มิตรผลวิจัย พัฒนาอ้อยและน้ำตาล บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ บจก.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น ฯลฯ
นายพิเชฐ กล่าวว่า โครงการฟู้ดอินโนโพลิส เป็น 1 ในซุปเปอร์คลัสเตอร์ที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งในเฟสแรก วท.ได้จัดเตรียมพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี ซึ่งล้อมรอบหน่วยงานวิจัย มหาวิทยาลัย และมีโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนนวัตกรรมสำหรับเอกชน สำหรับสาขาเป้าหมายที่จะเริ่ม อาทิ อาหารฟังก์ชั่นและสุขภาพ อาหารคุณภาพที่มีมูลค่าเพิ่ม การสนับสนุนธุรกิจสำหรับนวัตกรรมอาหาร เป็นต้น รวมถึงเตรียมสิทธิประโยชน์เมื่อเข้าร่วมโครงการ เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ
นายพิเชฐ กล่าวว่า ที่ประชุมพอใจกับเสนอนี้ แต่ยังเป็นห่วงรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โครงสร้างการบริหารจัดการ เกณฑ์การพิจารณาและขั้นตอนการขอรับสิทธิประโยชน์ กลยุทธ์การดึงบริษัททำวิจัยต่างประเทศเข้าร่วม แนวทางการขับเคลื่อน เพื่อให้ฟู้ดอินโนโพลิสเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารของภูมิภาคอย่างแท้จริง
“ที่ประชุมจึงเห็นร่วมกันว่า จะจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาจากภาคเอกชน เพื่อพิจารณาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำงานร่วมกับสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) อย่างใกล้ชิด รวมถึงเร่งจัดทำแผนการสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับผู้ที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้” นายพิเชฐ กล่าว
