นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในฐานะโฆษกสบน. เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง วันที่ 30 กันยายน 2559 ถือเป็นวันสิ้นปีงบ 2559 มีจำนวน 5,988,386.53 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.73% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากปีงบ 2558 ประมาณ 2 แสนล้านบาท คิดเป็น 3.5% หนี้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการชดเชยขาดดุลงบประมาณ 3.6 แสนล้านบาท โดยมีหนี้ที่ลดลงเช่นหนี้ขององทุนเพื่อการฟื้นฟูแลพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(เอฟไอดีเอฟ) ที่สามารถชำระหนี้เงินต้นไปได้ 5 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านบาท
นายธีรัชย์ กล่าวว่า หนี้สาธารณะทั้งหมด แบ่งเป็นหนี้รัฐบาล จำนวน 4,471,220.22 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 994,794.29 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 500,054.33 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 22,317.69 ล้านบาท
นายธีรัชย์ กล่าวว่า ในปีงบ 2560 คาดว่าระดับหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 45.5% ถือว่าไม่สูงกว่ากรอบวินัยทางการเงินทางการคลัง กำหนดไว้ 60% โดยรัฐบาลมีแผนกู้เงินเพื่อมาลงทุนในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท แบ่งเงินกู้ในโครงการเดิม 1.5 แสนล้านบาท และโครงการใหม่ 7 หมื่นล้านบาท
“สบน.กำลังจับจากภาวะดอกเบี้ยในตลาด เนื่องจากพบว่าเริ่มปรับสูงขึ้นตั้งแต่การเลือกตั้งสหรัฐ ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรในไทยปรับสูงขึ้น 0.7-0.20% ตามรุ่นอายุ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติเริ่มขายพันธบัตรในไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตามสบน.ไม่ได้กังวลเนื่องจากมีสัดส่วนของการถือครองพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติเพียง 14% แต่คงต้องติดตามว่าหลังการประชุมธนาคารสหรัฐ(เฟด) ในช่วงเดือนธันวาคม ภาวะดอกเบี้ยในตลาดจะนิ่งหรือไม่”นายธีรัชย์ กล่าว
