‘ฉัตรชัย’ชงครม.22 พ.ย. เพิ่มเงื่อนไขเพียบ จูงใจทำนาแปลงใหญ่

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงเกษตรฯจะเสนอขอปรับปรุงเงื่อนไขอายุสินเชื่อตามโครงการแปลงใหญ่ของรัฐบาล ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)จากเดิมกระทรวงเกษตรเคยเสนออนุมัติสินเชื่อไว้ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เสนอตามแผนยุทธศาสตร์ข้าว วงเงินสินเชื่อ 5 ล้านบาท ระยะชำระหนี้ 1 ปี ดอกเบี้ยอัตรา 0.01% และครั้งที่ 2 เสนอตามโครงการแปลงใหญ่ วงเงินสินเชื่อ 5 ล้านบาท อายุสินเชื่อ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 0.01% ตามมติ ครม.ทั้ง 2 ครั้งทำให้เกษตรกรสนับสนุน และไม่จูงใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมแปลงใหญ่ เพราะระยะเวลาในการชำระหนี้และคืนเงินต้นสั้นเกินไป

” มาตรการที่จะเสนอครม.ครั้งนี้ คือ ปรับปรุงวงเงินสินเชื่อสูงสุดจากเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท และอายุสินเชื่อจากเดิมชำระคืนไม่เกิน 3 ปี เป็น 5 ปี ดอกเบี้ยที่เกษตรกรต้องชำระอัตรา 0.01% โดยได้ผ่านความเห็นชอบที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.) และเห็นพ้องให้ยกเลิกเงื่อนไขสินเชื่อเดิมมาใช้เงื่อนไขที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการแปลงใหญ่มากขึ้น และเพื่อให้โครงการแปลงใหญ่ของรัฐบาล สามารถขับเคลื่อนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ ” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า โครงการที่กระทรวงเกษตรฯจะเสนอครม.วันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ จะขออนุมัติเพิ่มวงเงินสินเชื่อโครงการเกษตรแปลงใหญ่ 20,000 ล้านบาท ตั้งเป้า 2 พันแปลง ปรับเปลี่ยนเป็นโครงการ 5 ปี โดยเพิ่มเงินกู้ให้กลุ่มเกษตรกรแปลงละ 10 ล้านบาท จากโครงการเดิมแปลงละ 5 ล้านบาท ระยะ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงเดิมจ่าย 0.01 % และรัฐบาลชดเชย 3 %

สำหรับปีที่ผ่านมาโครงการเกษตรแปลงใหญ่ มีปัญหาล่าช้า ในปี2559/60 ไม่ได้ตามเป้า โดยมีกลุ่มเกษตรกรยื่นกู้เพียง 133 ล้านบาท เป็นกลุ่มนาข้าวแปลงใหญ่ 53 แปลง จากเป้าเกษตรแปลงใหญ่ทั่วประเทศ 650 แปลง แปลงละ 5 ล้านบาท วงเงินกู้รวม 3,250 ล้านบาท เป็นนาข้าวแปลงใหญ่ 381 แปลง และที่เหลือเป็นพืชอื่นๆ เนื่องจากปีที่ผ่านมากลุ่มเกษตรกรอยู่ระหว่างจัดทำโครงการและแผนการทำธุรกิจเสนอธ.ก.ส.ถึงศักยภาพการใช้คืน

Advertisement

” นำ2โครงการเดิมมารวมกันและขยายวงเงิน 10 ล้านบาทเพื่อจูงใจ เดิมเกษตรกรไม่กู้ ระยะเวลาให้กู้สั้นไปไม่สะดวกหาซื้อเครื่องจักร ใช้ลดต้นทุนการผลิตยังไม่เท่าไร ก็ต้องรีบคืนเงินกู้แล้ว จึงมาปรับระยะเวลาและวงเงินเพิ่มจูงใจกลุ่มเกษตรกรมากขึ้น” นายสมชาย กล่าว
ส่วนมาตรการลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรับ รอบ 2 เพื่อเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น จำนวน 2.532 ล้านไร่ ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะทราบชัดเจนว่ามีจำนวนเกษตรกรสมัครใจกี่ครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการ และกำลังทำประชาคมในพื้นที่ ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น ข้าวโพด 2 ล้านไร่ และพืชหลังนา เพื่อลดรอบการทำนา เป็นมาตรการที่ภาครัฐเข้าไปดำเนินการสนับสนุน ในพื้นที่เป้าหมายไปไร่ละ2 พันกว่าบาท รายละไม่เกิน10 ไร่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image