ไตรมาส 4 ‘คอนโดกทม.’ ทะลักหมื่นยูนิต ราคาไม่เกิน 2 ล้านขายดี ‘ต่างชาติ’ ช้อปไม่หยุด

ไตรมาส 4 ‘คอนโดกทม.’ ทะลักหมื่นยูนิต ราคาไม่เกิน 2 ล้านขายดี ‘ต่างชาติ’ ช้อปไม่หยุด

วันที่ 21 พฤศจิกายน นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมซัพพลายคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ สิ้นไตรมาส3/2565 ปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้พัฒนาเป็นจำนวนมากเตรียมแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายอีกกว่า 10,000 ยูนิต โดยพบว่าไตรมาส3 มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ 9 โครงการ จำนวน  5,491 ยูนิต รวมมูลค่า 14,683 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า มีจำนวน  5,177 ยูนิตหรือคิดเป็น 51.4%  มีราคาขายเฉลี่ย 95,330 บาทต่อตารางเมตร ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.7% จากไตรมาสก่อนหน้า

นายภัทรชัยกล่าวว่า สำหรับการเปิดขายใหม่ทั้งหมด ยังเป็นการพัฒนาของรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มากที่สุด 4,398 ยูนิตหรือ 80.1%   รวมมูลค่า 12,580 ล้านบาท และผู้พัฒนานอกตลาดหลักทรัพย์ 1,093  ยูนิตหรือ19.9%  รวมมูลค่า 2,103 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นระดับราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อยูนิต และอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นนอกมากที่สุด 1,877 ยูนิต คิดเป็น34.2% รอบเมืองด้านทิศตะวันออก หรือย่านสุขุมวิท 1,704 ยูนิต คิดเป็น 31.1% ส่วนพื้นที่เมืองชั้นใน สาทร สีลม สุขุมวิทตอนต้น ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงที่ผ่านมา

นายภัทรชัยกล่าวว่า คาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่จะกลับมาคึกคักและส่งผลให้ซัพพลายใหม่ในปีนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯกลับมาอยู่ที่ 40,000 ยูนิตอีกครั้ง เนื่องจากยังมีผู้พัฒนารายใหญ่ เปิดตัวโครงการใหม่อีกมากกว่า 15 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าสายใหม่กำลังก่อสร้าง เช่น สายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี สายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง สายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และใกล้มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้พัฒนาต่างชาติสนใจร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ เช่น ผู้พัฒนาประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมามีประกาศร่วมทุนมากกว่า 3 โครงการ ในพื้นที่สุขุมวิท พระราม4 บางนา และอ่อนนุช

“กำลังซื้อในประเทศและต่างชาติยังมีต่อเนื่อง ยังคงมองหาและให้ความสนใจคอนโดมิเนียมระดับราคาขาย 50,000-100,000 บาทต่อตารางเมตร และราคาขาย 1.2-2 ล้านบาทต่อยูนิต ส่งผลให้บางโครงการปิดการขายไปกว่า 50% ในเวลาอันรวดเร็ว คาดว่าผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาด เช่น บมจ.แสนสิริ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์  บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จะยังคงพัฒนาโครงการใหม่ในระดับราคานี้ออกสู่ตลาด ขณะที่ต่างชาติยังเป็นกลุ่มเป้าหมายของผู้พัฒนารายใหญ่ ในโครงการอยู่ในโซนสุขุมวิท พระราม9 รัชดาภิเษก ”นายภัทรชัยกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image