| ผู้เขียน | หาน จื้อเฉียง |
|---|
ส่งเสียงความร่วมมือเอเชีย-แปซิฟิกที่ดังกึกก้อง
เปิดหน้าใหม่ความสัมพันธ์จีน-ไทยที่ยาวนาน
ช่วงระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนประเทศไทยตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนภายหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 และเป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะประมุขแห่งรัฐ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการชี้นำความร่วมมือเอเชีย-แปซิฟิกและส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย
อธิบายการพัฒนาของจีน แสดงวิสัยทัศน์ต่อโลก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้บอกเล่าอย่างเป็นระบบ เจาะลึก และเฉียบแหลมถึงเรื่องราวของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 เรื่องราวของความทันสมัยในประเทศจีน และเรื่องราวของความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนกับโลก จุดประกายอนาคตที่สดใสของการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและการเปิดกว้างในระดับสูง ส่งสัญญาณที่เข้มแข็งว่าจีนจะยังคงส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลก และขยายการเปิดกว้างและความร่วมมือกับภายนอกอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพิ่มความเข้าใจและการยอมรับของทุกฝ่ายเกี่ยวกับกลยุทธ์การปกครองประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและแนวคิดของเส้นทางของประเทศจีน ผู้นำต่างประเทศเกือบทั้งหมดที่พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต่างแสดงความยินดีกับความสำเร็จของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 และการดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่ออีกหนึ่งสมัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทุกระดับในสังคมไทยต่างต้อนรับอย่างอบอุ่นและยินดีจากใจจริงต่อการมาเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพอันลึกซึ้งดังคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทยครอบครัวเดียวกัน”
มุ่งเน้นการพัฒนาความร่วมมือ ส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของเอเชีย-แปซิฟิก เอเปคเป็นเวทีที่สำคัญที่สุดสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก การประชุมผู้นำเอเปคในปีนี้เป็นการประชุมแบบออฟไลน์ครั้งแรกของผู้นำกลุ่มเศรษฐกิจต่างๆ ในรอบ 3 ปี ซึ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษและเป็นที่คาดหวังและสนใจของทุกฝ่าย ภายใต้หัวข้อ “การเปิดกว้าง ความเชื่อมโยง และความสมดุล” ทุกฝ่ายได้มุ่งเน้นไปที่เอเชีย-แปซิฟิก มุ่งเน้นที่การพัฒนาและการสร้างเขตการค้าเสรีของเอเชีย-แปซิฟิก สะท้อนถึงความปรารถนาร่วมกันที่จะเอาชนะความยากลำบากและการสร้างความรุ่งโรจน์อย่างต่อเนื่อง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สรุปประสบการณ์ความสำเร็จของความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิกอย่างเฉียบแหลม และเรียกร้องให้มีแนวทางการพัฒนาอย่างสันติ เปิดกว้างโดยไม่แบ่งแยก และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กระชับความสัมพันธ์ของเอเชีย-แปซิฟิกที่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ยอมรับระหว่างกัน ร่วมมือกัน และได้ประโยชน์ร่วมกัน (win-win) สร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของเอเชีย-แปซิฟิกมีสันติ มั่นคง พัฒนาร่วมกัน สะอาดสวยงาม และช่วยเหลือกันและกัน ที่ประชุมได้รับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม 2 ฉบับ ได้แก่ แถลงการณ์ร่วมของผู้นำเอเปค และ “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” (Bangkok Goals on Bio-Circular-Green (BCG) Economy) ซึ่งสะท้อนข้อเสนอเชิงนโยบายของจีนในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของเอเชีย-แปซิฟิกและแนวคิดการพัฒนาใหม่ๆ
สานต่ออดีต นำสู่อนาคต วาดวิสัยทัศน์ใหม่สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย จีนและไทยมีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดและมีความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม มีประวัติความสัมพันธ์ยาวนานนับพันปี ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 10 ปีของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทย ผู้คนจากทุกสาขาอาชีพในประเทศไทยต่างตั้งตารอการมาเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพบปะหารืออย่างเป็นมิตรและเป็นกันเองกับนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามลำดับ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันประกาศจัดตั้งประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน-ไทยที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเสริมเติมเนื้อหาใหม่ของความสัมพันธ์ที่เรียกว่า “จีน-ไทยครอบครัวเดียวกัน” ทั้งสองฝ่ายยังได้ออกแถลงการณ์ร่วมและลงนามในเอกสารแผนปฏิบัติการความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์และเอกสารความร่วมมืออื่นๆ หลายฉบับ และตกลงที่จะส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาการเชื่อมโยงจีน-ลาว-ไทย เร่งการก่อสร้างทางรถไฟจีน-ไทย และสร้างเส้นทางรถไฟที่เชื่อมคาบสมุทรอินโดจีนในอนาคต สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความเชื่อมโยงและการพัฒนาที่ประสานกันภายในภูมิภาคด้วย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงการสนับสนุนให้ไทยเป็นประธานร่วมของความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และย้ำว่าอาเซียนจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการทูตกับประเทศเพื่อนบ้านของจีน ทั้งนี้ จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับไทยเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาและความร่วมมือ ส่งเสริมการสร้าง “บ้านห้าหลัง” และสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกับจีน-อาเซียนที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การติดต่ออย่างกว้างขวาง การสื่อสารที่เจาะลึก ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของพันธมิตร ระหว่างการประชุมผู้นำเอเปค ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้จัดการประชุมทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่างๆ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เห็นด้วยกับผู้นำของฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในการเสริมสร้างมิตรภาพที่ดีระหว่างเพื่อนบ้าน โดยจะกระชับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มั่นคงและแข็งแกร่ง อีกทั้งเพิ่มระดับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ขณะเดียวกัน ยังตกลงที่จะเพิ่มการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารราชการแผ่นดินกับผู้นำประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ ปาปัวนิวกินีและชิลี เป็นต้น โดยการสนับสนุนเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ทำงานอย่างอดทนและพิถีพิถันกับผู้นำของญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ โดยได้ชี้นำอย่างแข็งขันเพื่อเสริมสร้างการสื่อสารกับจีน เพิ่มพูนความเข้าใจ เสริมความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เคารพในผลประโยชน์หลักและข้อกังวลที่สำคัญของกันและกัน ท่านยังได้เสนอทัศนคติของจีนที่มีความเป็นกลางและมีเหตุผล ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างมั่นคงและยืนยาวบนแนวทางที่ถูกต้อง บัดนี้ ประเทศต่างๆ ในโลกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตระหนักดีว่าการพัฒนาของจีนคือการเพิ่มขึ้นของพลังแห่งสันติภาพและความก้าวหน้า และจีนเป็นเพื่อนและหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้และต้องสร้างความร่วมมือด้วย
การเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง เป็นการชี้แนวทางที่ถูกต้องและเป็นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาระยะยาวของความร่วมมือเอเชีย-แปซิฟิกและความสัมพันธ์จีน-ไทย นับเป็นก้าวใหม่ในประวัติศาสตร์ความร่วมมือเอเชีย-แปซิฟิกและความสัมพันธ์จีน-ไทย ในฐานะเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ข้าพเจ้าขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณจากใจจริงและแสดงความเคารพอย่างสูงต่อผู้นำของประเทศไทย รัฐบาลไทย และประชาชนชาวไทยสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นมิตรต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
หาน จื้อเฉียง
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน
ประจำประเทศไทย
