นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงสุดในูมิภาคอาเซียนเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน หรือมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 5.34 หมื่นล้านบาท สำหรับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดจากการระดมทุนหุ้นสามัญที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) แม้จะไม่เป็นไปตามคาดการณ์ที่ 2.7 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะทำได้ 1.5-1.6 แสนล้านบาท แต่ยังคงสูงกว่าภูมิภาคอาเซียน
ส่วนแผนการดำเนินงานของ ตลท. ปี 2560 ตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้หลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นจุดแข็งของประเทศหรืออยู่ในไทยแลนด์ 4.0 โดยเน้นกลุ่มอาหารและพลังงาน อย่างน้อย 25% ของหุ้นไอพีโอเข้าใหม่ที่ตั้งเป้าจะมีมาร์เก็ตแคปหุ้นไอพีโอที่ 2.8 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายถึง 58% ของมาร์เก็ตแคปทั้งหมด สนับสนุนให้ภาครัฐใช้ตลาดทุนเพื่อประโยชน์ในการจัดการเงินทุนเป็นการลดภาระหนี้สาธารณะคาดว่าในปี 2559 จะมีไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เข้าระดมทุนได้ รวมทั้ง ตั้งเป้าเพิ่มผู้ลงทุนใหม่ในหุ้น 1 แสนคน ผู้ลงทุนใหม่ในอนุพันธ์ 1 หมื่นคน เตรียมพร้อมรองรับ ทีบวกสอง
นอกจากนี้ คาดว่าต้นปี 2560 จะมีหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีศักยภาพเข้ามาจดทะเบียนแบบทางตรงคือไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนสัญชาติไทย จากเดิมที่บริษัทจดทะเบียนต่างประเทศจะเข้ามาในลักษณะโฮลดิ้งคอมปะนี ในส่วนของสตาร์ทอัพนั้นจะสร้างระบบนิเวศรองรับ โดยเตรียมพัฒนาระบบนำฟินเทคมาประยุกต์ใช้ เพื่อรองรับการซื้อขายความเป็นเจ้าของหรือแลกเปลี่ยนการลงทุนในสตาร์ทอัพสำหรับกลุ่มนักลงทุนและนักลงทุนบุคคลที่เข้าใจความเสี่ยง ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 2560
อย่างไรก็ตาม ในส่วนสตาร์ทอัพนั้นที่ผ่านมาตลท.ได้สร้างเว็บท่ารองรับแล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องชื่อเว็บไซต์ http://new.set.or.th รวบรวมสตาร์ทอัพ 598 ราย มีกลุ่มผู้ลงทุน 62 ราย และกลุ่มผู้ที่สนับสนุนรัฐและเอกชน 119 ราย หลังจากนี้จะเพิ่มข่าวสารและสิ่งที่ภาครัฐสนับสนุน รวมทั้งเพิ่มองค์ความรู้สตาร์ทอัพมารวมไว้ ทั้งนี้ ในต้นปี 2560 จะมีการประชุมเพื่อรวมเว็บท่าที่เกี่ยวกับสตาร์ทอัพในแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกัน
