ฝนชุกพื้นที่ปลูกผักชี ต้นเหตุราคาพุ่งถึงโลละ 270 บาท พณ.ชี้สัปดาห์หน้าคลี่คลาย

ฝนชุกพื้นที่ปลูกผักชี ต้นเหตุราคาพุ่งถึงโลละ 270 บาท พณ.ชี้สัปดาห์หน้าคลี่คลาย

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้มีการติดตามสถานการณ์ผักในตลาดทั้งระดับค้าส่งและค้าปลีกในส่วนกลางและภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 7 ธันวาคม ได้ลงพื้นที่ ณ ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ตลาดขายส่งผักขนาดใหญ่ที่กระจายสินค้า ไปยังกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพฯ ที่เป็นตลาดค้าปลีก พบว่า พืชผักส่วนใหญ่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีเพียงผักชี พบว่า ราคาปรับตัวสูงขึ้นเป็น 260-270 บาท/กก. จาก 180-190 บ./กก. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญประสบปัญหาฝนตกชุก ผลผลิตได้รับความเสียหาย ใบเน่า ประกอบกับเกษตรกรเริ่มเพาะปลูกผักชีรุ่นใหม่ ภายหลังที่เกิดน้ำท่วมขังในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณผักชีเข้าสู่ตลาดลดลง ขณะที่ยังคงมีความต้องการต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาผักชีปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์ ณ ตลาดสี่มุมเมือง พบว่า ราคาผักชีมีแนวโน้มปรับลดลงแล้ว เนื่องจากปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น คาดว่าผักชีรุ่นใหม่จะเข้าสู่ตลาดมากขึ้นในสัปดาห์หน้า และราคาในตลาดขายปลีกจะปรับตัวลดลงสอดคล้องกับราคาตลาดกลาง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป กรมการค้าภายในจึงได้ดำเนินการเชื่อมโยงผลผลิตผักชีจากแหล่งผลิตไปจำหน่ายสู่ผู้บริโภคโดยตรง ในราคาประหยัด ประมาณขีดละ 20 บาท ผ่านช่องทางรถ Mobile พาณิชย์ ซึ่งจะวิ่งไปจำหน่าย ณ สถานที่ชุมชน กว่า 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

Advertisement

ในส่วนของมะนาว จากกรณีปรากฏข่าวว่าราคามะนาวที่ตลาดสดในจังหวัดขอนแก่นปรับตัวสูงขึ้น โดยจากข้อเท็จจริงแล้ว ราคามะนาวยังคงทรงตัวและราคามีความสมดุลกับความต้องการของตลาด จากที่ก่อนหน้านี้ผลผลิตมะนาวเข้าสู่ตลาดมาก ส่งผลให้มะนาวมีราคาตกต่ำและเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ดี กรณีจังหวัดขอนแก่น

กรมการค้าภายใน ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่นตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการปรับราคาตามที่เป็นข่าวหรือไม่ หากมีการปรับราคาที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงก็จะเป็นความผิดในการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร ซึ่งจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และหากไม่ปิดป้ายแสดงราคาการจำหน่ายสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

นอกจากนี้ ยังได้ติดตามสถานการณ์กะหล่ำปลีและผักกาดขาวปลีที่ก่อนหน้านี้มีราคาต่ำลง ทำให้เกษตรกรทางภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนนั้น จากการที่กรมการค้าภายในได้เข้าไปเชื่อมโยงตลาดให้กับเกษตรกรและลงพื้นที่วันนี้ ราคากะหล่ำปลีและผักกาดขาวปลีได้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีการบริโภคเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าในช่วงปีใหม่ เกษตรกรจะขายผลผลิตได้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคามีแนวโน้มปรับเข้าสู่สมดุล หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือการขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุสมควร สามารถแจ้งสายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image