“พาณิชย์” ประสาน 2 โรงงานแปรรูปพริก”แพร่-นครสวรรค์” รับซื้อผลผลิตเกษตรกรพบพระ บรรเทาปัญหาราคาพริกตกต่ำ
จากกรณีเกษตรกรปลูกพริกแดงหรือซุปเปอร์ฮอตบ้านรวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ได้รับความเดือดร้อน จากราคาตกต่ำ จากเดิมราคาขายอยู่ที่ 50-60 บาท/กิโลกรัม ปัจจุบันขายได้เพียง 25 บาท/กิโลกรัม เท่านั้น จึงเรียกร้องรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลเป็นการด่วน
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เผยถึงมาตรการแก้ปัญหาราคาพริกตกต่ำกรณีดังกล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ได้ประสานไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตากจัดการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
โดยประสานกับโรงงานรับซื้อพริกที่ จ.แพร่ และโรงงานซอสพริก จ.นครสวรรค์ในการเข้ามารับซื้อพริกของเกษตรกรในราคานำตลาด ไม่รับซื้อในราคาที่สูงเกินไป เพราะไม่ต้องการให้มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการหรือพ่อค้าในพื้นที่ด้วย
“ขณะนี้ทางโรงงานยังมีความต้องการพริกเข้าสู่กระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยราคารับซื้อพริกฮอตแดงและพริกชี้ฟ้าแดง(เด็ดก้าน) ของโรงงานแพร่อยู่ที่ 30 บาท/กิโลกรัม ส่วนโรงงานทจ.นครสวรรค์รับซื้อพริกชี้ฟ้าแดงอยู่ที่ 19-20 บาท/กิโลกรัม ซึ่งจากการติดตามไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มเกษตรกรติดต่อจำหน่ายพริกให้กับโรงงานทั้งสองแห่งแต่อย่างใด”
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เผยต่อว่าส่วนในเรื่องต้นทุนการผลิตสูงเช่น ปุ๋ยราคาแพง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อเกษตรกร จำนวนความต้องการปุ๋ยเคมีของทางสำนักงานเกษตรอำเภอ เพื่อนำมอบให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก เพื่อรวบรวมให้กับกรมการค้าภายในต่อไป
ส่วน การดูแลความเป็นธรรมทางการค้า ขณะนี้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตากได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกตรวจผู้ประกอบการที่รับซื้อพริกและผักสดในพื้นที่เพื่อกำกับดูแลให้มีการรับซื้ออย่างเป็นธรรมและปิดป้ายแสดงราคารับซื้อชัดเจนตามประกาศ กกร.ฉบับที่ 70 พ.ศ.2565 เรื่องการแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตร ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 และใช้เครื่องชั่งที่มีมาตรฐานรับรองตามกฎหมายชั่งตวงวัดด้วย
รองอธิบดีกรมการค้าภายในยังกล่าวถึงกรณีการนำเข้าพริกจากประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นไปตามข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า GATT โดยมาตรา 11 ห้ามประเทศสมาชิกใช้มาตรการห้ามหรือจำกัดการนำเข้าสินค้าจากประเทศสมาชิกอื่น
เว้นแต่เป็นการใช้มาตรการเพื่อปกป้องชีวิตและสุขอนามัยของมนุษย์โดยต้องบังคับใช้มาตรการอย่างไม่เลือกปฏิบัติและไม่ใช้เป็นเครื่องมือในกรณีกีดกันทางการค้า ดังนั้นการพิจารณาตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกหรือการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 จะต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็นและพิจารณาถึงผลกระทบค้าชายแดนในภาพรวมด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การผลิตและการตลาดพริกในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตากนั้นมีพื้นที่ปลูกพริกรวมทุกชนิด 11,426 ไร่ มีเกษตรกรปลูกพริกจำนวน 1,392 ราย ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,500 กิโลกรัม/ไร่ มีผลผลิตทั้งหมด 17,334 ตัน ขณะนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 70% หรือ 11,997 ตัน คงเหลืออีก 5,141 ตัน และผลผลิตจะเก็บเกี่ยวหมดประมาณเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี แต่ในแปลงเกษตรกรที่มีระบบน้ำจะมีการปลูกหมุนเวียนตลอดทั้งปี
