‘ทรู’ ไม่ติด ให้ไอพีทีวี ยิงสดบอลโลกฟรี 2 แมตช์ สุดท้าย ยันไม่คิดค่าตอบแทน

‘ทรู’ ไม่ติด ให้ไอพีทีวี ยิงสดบอลโลกฟรี 2 แมตช์ สุดท้าย แจ้งความประสงค์เลย ยันไม่คิดค่าตอบแทน

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มทรูอยากให้คนไทยได้มีความสุขกับการรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2 แมตช์สุดท้าย ทั้งนัดชิงชนะเลิศระหว่าง ฝรั่งเศส-อาร์เจนตินา วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2565 และ นัดชิงอันดับสามระหว่าง โมร็อกโก-โครเอเชีย วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นแมตซ์หยุดโลกที่แฟนบอลชาวไทยทุกคนต่างรอคอย ดังนั้น เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศได้รับชมอย่างครอบคลุมและทั่วถึง

กลุ่มทรู ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดการแข่งขันดังกล่าวผ่านระบบไอพีทีวีแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบไอพีทีวีทุกรายในการนำสัญญาณถ่ายทอดการแข่งขันจากช่องดิจิตอลทีวีไปเผยแพร่ภายใต้การให้บริการผ่านกล่องรับสัญญาณในระบบโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (ไอพีทีวี) โดยไม่มีข้อจำกัดและไม่มีการเรียกเก็บค่าตอบแทน ทั้งนี้ การถ่ายทอดต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของฟีฟ่า และการกีฬาแห่งประเทศไทย ตัวแทนผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในไทย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ จึงจำเป็นต้องขอให้ผู้ให้บริการระบบไอพีทีวีที่ต้องการให้สมาชิกได้รับชมส่งหนังสือแจ้งความจำนงในการเผยแพร่ออกอากาศการแข่งขันมายังกลุ่มทรู พร้อมระบุมาตรการในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ที่จะไม่ทำให้สัญญาณเผยแพร่ผ่านการให้บริการในรูปแบบอื่น อาทิ แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ และจะไม่เปลี่ยนแปลง ทำซ้ำ ดัดแปลง ผังรายการหรือเนื้อหารายการแต่อย่างใด เพื่อสร้างมาตรฐานสำหรับการถ่ายทอดสดของกีฬาระดับโลกในอนาคต

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการในระบบไอพีทีวีที่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มทรูในการเผยแพร่ออกอากาศการแข่งขันคราวนี้ ก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือต่างตอบแทนกับกลุ่มทรูในอนาคตเช่นกัน

Advertisement

“การตัดสินใจครั้งนี้ แม้จะมีผลกระทบกับผลตอบแทนที่ควรได้รับจากการเป็นผู้สนับสนุน แต่กลุ่มทรูก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบไอพีทีวีโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าตอบแทน เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศได้มีความสุขและเต็มอิ่มกับการรับชมการแข่งขันกีฬาระดับโลก โดยเฉพาะ 2 แมตซ์หยุดโลกของ World Cup 2022 ที่เป็นรายการที่ได้รับความสนใจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นรายการการแข่งขันที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกรายการหนึ่ง

ทั้งนี้ กลุ่มทรู ในฐานะผู้ประกอบการที่เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลกมาโดยตลอด จำเป็นต้องให้ความสำคัญและเคารพเรื่องลิขสิทธิ์ในคอนเทนต์ตามมาตรฐานสากล และต้องปฏิบัติตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมทั้งอาจส่งผลต่อการรับชม คอนเทนต์ระดับโลกของประชาชนชาวไทยต่อไปในอนาคตได้” ดร.ธีรเดช กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง มีคำสั่งห้าม บริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (SBN) ผู้ให้บริการเอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ หนึ่งในผู้ให้บริการไอพีทีวี แพร่เสียงและแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก

โดยระบุว่า เป็นการละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งกลุ่มทรูเป็นผู้ได้รับสิทธิในการเผยแพร่แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ดังนั้น หากยังไม่ได้รับแจ้งการยกเลิกคำสั่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ดังกล่าว เอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ จึงยังไม่สามารถถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกได้

ทั้งนี้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ไม่ทราบในรายละเอียดของกฎหมาย แต่มองว่า เมื่อกลุ่มทรู ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ยินยอมให้สามารถถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2 แมตซ์สุดท้ายได้ ก็ต้องดำเนินการ และทำตามกฎมัสต์แครี่ ซึ่งมองว่าไม่น่าจะมีปัญหา

ส่วนกรณีเอกสารมูลค่าการสนับสนุนในการเข้าร่วมการรับสิทธิ์ถ่ายทอดสดในประเทศไทย โดย กสทช. ร่วมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และการกีฬาแห่งประเทศไทย พิจารณาขอรับการถ่ายทอดสดทางไอพีทีวี รวม 4 แมตช์สุดท้าย มูลค่า 22 ล้านบาท หลุดออกมานั้น นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นเอกสาร จึงไม่ทราบในรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร เพราะ กกท. ไม่ได้มีการหารือ ปรึกษา ร่วมกับ กสทช. แต่มองว่า วงเงินดังกล่าวอาจเป็นการขอสนับสนุนสปอนเซอร์ตามปกติ และเงินที่ได้เข้าไปยัง กกท.

ขณะที่ แหล่งข่าวจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขอให้ผู้ให้บริการไอพีทีวีที่ต้องการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ส่งหนังสือแจ้งความจำนงมายังกลุ่มทรูโดยเร็ว จากนั้น จะทำหนังสือตอบกลับไปโดยไม่ต้องรอการยกเลิกคำสั่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ก็จะสามารถถ่ายทอดสดได้ เพราะอยู่ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ ไม่ใช่กฎมัสต์แครี่ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งความจำนงผ่าน สำนักงาน กสทช.

“การยื่นฟ้องผู้ให้บริการผ่านกล่องเอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ และศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นการชั่วคราว เพราะวันนั้นมีการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งกลุ่มทรู เป็นผู้ได้รับสิทธิในการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ในประเทศไทยเพียงผู้เดียว แต่เมื่อวันนี้มาขอสิทธิ์และได้รับ ก็จะสามารถถ่ายทอดสดได้ โดยไม่ต้องรอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่ง เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน” แหล่งข่าวกล่าว และว่า

“กลุ่มทรู เป็นผู้สนับสนุนเงิน 300 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก แต่กลับตกเป็นจำเลยของสังคม และถูกมองว่า กีกกันการถ่ายทอดสดและไม่ให้รับชม ดังนั้น จึงเปิดให้ได้รับชม เพราะต้องการวางแบบแผนในการถ่ายทอดสดในอนาคต ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครกล้าซื้อลิขสิทธิ์เข้ามา และสุดท้ายก็ต้องเปิดให้ชมฟรีแบบนี้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image