เซ็นทรัล ทุ่ม 500 ล้าน จัดเคาต์ดาวน์กระหึ่มราชประสงค์ ดึงซุป’ตาร์เคป็อป ‘เรน’ ขึ้นเวที

เซ็นทรัล ทุ่ม 500 ล้านจัดเคานต์ดาวน์กระหึ่มย่าน ‘ราชประสงค์’ เซอร์ไพร์ส ‘เรน’ ขึ้นเวที สร้างสีสันรับปีเถาะ

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)หรือCPN เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่ม 500 ล้านบาท จัดเคานต์ดาวน์ ภายใต้ชื่อ “เซ็นทรัลเวิลด์ แบงค็อก เคานต์ดาวน์ 2023” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์์ พร้อมกับ 7 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ เซ็นทรัลภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ มารีน่า หาดใหญ่ อยุธยา และโคราช โดยร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดงานผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย และการท่องเที่ยวที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

เปิด 7 ไฮไลต์ดึง ‘เรน’ ขึ้นเวทีเซอร์ไพรส์

ทั้งนี้ในปีนี้เตรียม 7 ไฮไลต์ ประกอบด้วย

1.The World artist of the century เซอร์ไพรส์ศิลปินระดับโลก THE RETURN OF K-POP KING “RAIN”

Advertisement

2.มันส์อันลิมิเต็ดกับ 10 ศิลปินติดท็อปชาร์ต ได้แก่ โบกี้ ไลอ้อน, วิโอเลต วอเทียร์, โอ๊ต ปราโมทย์, โจอี้ บอย, 4 EVE, พีพี กฤษฎ์, บิวกิ้น, ทรีแมนดาวน์ และนนท์ ธนนท์

3.กราฟฟิคสเตจใหญ่สุดหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

4.โชว์เลเซอร์

Advertisement

5.จุดพลุอลังการ 15 นาที ใจกลางแลนด์มาร์ก ไทม์สแคร์ออฟเอเชีย

6.ผนึกกำลังของย่านการค้าและการท่องเที่ยวย่านราชประสงค์ ถ่ายทอดวินาทีเคานต์ดาวน์ทั่วกรุงเทพ ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของปี 23:50-00:15 ตั้งแต่แยกสาธร แยกนานา ชิดลม อโศก

7.พบกับเทศกาลดนตรี 10 ศิลปินดัง 10 วัน 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 21-30 ธันวาคมนี้และมีมาตรการคุมเข้มด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงาน จำกัดจำนวนคน ลดแออัด จัดทางออกมากกว่า 10 ช่องทาง เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาล และรถพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบบกล้องซีซีทีวี ครอบคลุมทั่วพื้นที่ศูนย์การค้าและตรวจบุคคล และยานพาหนะทุกทางเข้า-ออกของศูนย์เป็นต้น

“เคานต์ดาวน์ปีนี้จะเป็นการกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ หลัง 2 ปีที่ผ่านมาเราจัดทางออนไลน์ แต่ปีนี้โควิดคลี่คลาย จะส่งมอบความสุขให้กับคนไทย และเป็นการฉลอง 40 ปีของเซ็นทรัลด้วย โดยอยากให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็นแลนด์มาร์กของการเคานต์ดาวน์ ที่จะนำไปปักหมุดในCNN และเป็นไทม์สแควร์ ออฟ เอเชีย”

ททท.คาดรายได้สะพัดพันล้าน

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ประเมินจุดเคานต์ดาวน์หหน้าเซ็นทรัลเวิลด์และแยกราชประสงค์ จะมีคนเข้าร่วมงานกว่า 5 แสนคน โดยเป็นคนไทย 80% และต่างชาติ 20%หรือ 1 แสนคนและเกิดเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับการจัดเคานต์ดาวน์พื้นที่อื่นๆ ททท.อยู่ระหว่างรวบรวมทั่วประเทศ ซึ่งสังเกตุได้ว่าปีนี้มีการตื่นตัวเพื่อจะจัดเคานต์ดาวน์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งในรอบ 3 ปี

นายอภิชัยกล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่าเคานต์ดาวน์จะเป็นบรรยากาศที่จุดประกายสะท้อนถึงการฟื้นตัวของบรรยากาศใช้จ่ายและอออกมาทำกิจกรรมอีกครั้งหลังเกิดการแพร่ระบาดกว่า 2 ปี ทั้งนี้ททท.ได้คาดการณ์ปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน และคนไทยจะเพิ่มการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะเกิดรายได้สะพัดในภาคท่องเที่ยวรวมกว่า 2.38 ล้านล้านบาท ขณะนี้ได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยมาอย่างต่อเนื่อง และหลากหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ยุโรป ตะวันออกกลาง

“หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการช้อปดีมีคืนและเราเที่ยวด้วยกัน แต่เริ่มในเดือนมกราคม2566 ส่วนตัวมองว่าจะไม่กระทบต่อการใช้จ่ายในช่วงฉลองปีใหม่ เนื่องจากคนอั้นใช้จ่ายและออกมาร่วมกิจกรรมนอกบ้านมากว่า 2 ปี เมื่อมีการเปิดประเทศ เชื่อว่าคนยังอยากออมาผ่อนคลายและใช้จ่าย ส่วนมาตรการรัฐจะใช้ในช่วงโลว์ซีซั่่น จะช่วยพยุงการใช้จ่าย และกระตุ้นการเดินทาง ในช่วงนั้นได้มาก”นายอภิชัยกล่าว

กลุ่มราชประสงค์จี้รัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่ายราชประสงค์ กล่าวว่า การจัดเคานด์ดาวน์ปีนี้เป็นการกลับมาในรอบ 3 ปีนับจากโควิดระบาด ล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจองห้องพักย่านราชประสงค์เพื่อมาท่องเที่ยวและเข้าร่วมบรรยากาศเคานต์ดาวน์ในไทย มีอัตราการจองแล้วประมาณ 70-80% ใกล้เคียงกับช่วงก่อนปี 2562 มีการจองห้องพักเต็ม 100%

เนื่องจากต่างชาติเห็นถึงศักยภาพการจัดงานและเทียบค่าใช้จ่ายกับประเทศในเอเชียถือว่าไทยยังอยู่ในอัตราที่ดีกว่า เช่น ฮ่องกงและสิงคโปร์ที่ขณะนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าไทย และเชื่อว่าบรรยากาศฉลองปีใหม่ในปีนี้จะมีความคึกคัก ซึ่งในส่วนของความปลอดภัย ผู้ประกอบการมีการเตรียมการและได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรุงเทพมหานคร(กทม.) มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวี 120 ตัวในจุดต่างๆดูแล 24 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐกว่า 2,200 นายมาดูแลความปลอดภัยในช่วงของการจัดงาน

“อยากให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องถึงปีหน้า ให้กลับคักคัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจีนเปิดประเทศ จะยิ่งเพิ่มบรรยากาศของตลาดค้าปลีกไทยในย่านราชประสงค์ให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น”นายชายกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image