สกนช.จ่อกู้เงินเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ รอเคาะ 9 ม.ค.นี้ คาดอนุมัติ 3 หมื่นล้าน

สกนช.จ่อกู้เงินเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ เฟส 2 รอ สบน.เคาะ 9 ม.ค.นี้ คาดอนุมัติ 3 หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่กระทรวงพลังงาน นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานจาการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2565 ว่า จากภาพรวมสถานการณราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันดีเซล ปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 135.54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ถึง 74.26%

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาสนับสนุนการขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยทยอยขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) จากที่ตรึงไว้ 318 บาท/ถัง 15 กก. มาอยู่ที่ 408 บาท/ถัง และตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาทลิตร ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2565 มีสถานะติดลบ กว่า 130,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ภายหลังคณะรัฐมนตรีได้ออก พ.ร.ก.ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของ สกนช. กรอบวงเงิน 150,000 ล้านบาท มีผลบังคับใช้ สกนช.ได้ดำเนินการกู้กับธนาคารกรุงไทยและธนาคารเงินรอบแรก 30,000 ล้านบาท ส่งผลให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบลดลง ณ วั นที่ 1 มกราคม 2566 ติดลบที่ 121,491 ล้านบาท ซึ่งได้นำเงินไปใช้หนี้ให้กับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ไปแล้ว 20,000 ล้านบาท เหลือวงเงินอีก 10,000 ล้านบาท และเตรียมจ่ายหนี้ส่วนที่เหลือในช่วงเดือนมกราคม 2566

Advertisement

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2565 ราคาน้ำมันในตลาดอ่อนตัวลงทำให้กองทุนฯสามารถจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯได้กว่า 8,000-9,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วันที่ 1 มกราคม 2566 กองทุนฯ ยังขาดสภาพคล่องอยู่ที่ประมาณ 121,491 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในวันที่ 9 มกราคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะมีการประชุมบอร์ด สบน. คาดว่าจะพิจารณากรอบวงเงินกู้เฟส 2 หากมีมติอย่างไรจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อ ซึ่งเรื่องจะเข้า ครม.ได้ในช่วงใดขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลัง เพราะจะมีกรอบวงเงินประจำปี และมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร

“อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ ยังมีสภาพคล่องพอจ่ายลูกค้ากลุ่มมาตรา 7 ได้ในช่วงเดือนมกราคม 2566 และประเมินว่าจะได้วงเงินกู้ไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อที่จะนำไปจ่ายหนี้ให้กับลูกค้ามาตรา 7 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2566 ต่อไป” นายวิศักดิ์ กล่าว

Advertisement

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับทิศทางกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2566 ที่เป็นช่วงจีนเปิดประเทศนั้น มองว่าราคาน้ำมันจะไม่ร้อนแรงเท่ากับปี 2565 แต่จะต้องติดตามสถานการณ์รายวัน โดยเฉพาะความขัดแย้งรัสเซียยูเครน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสถานการณ์โควิด แต่ปัจจุบันกองทุนฯ ยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 35 บาทต่อลิตร และยังคงเก็บเงินเข้ากองทุนฯ อยู่ที่ 3.72 บาทต่อลิตร ข้อมูล 3 มกราคม 2566

ส่วนจะตรึงราคาดีเซลที่ 35 บาทต่อลิตรไว้นานแค่ไหนต้องติดตามสถานการณ์รายวัน และยืนยันหากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะบริหารจัดการสภาพคล่องฯให้สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 5 แห่ง พรบ.กองทุนน้ำมันฯ คือการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ที่ยังมีความผันผวน

“ราคาน้ำมันจะเป็นทิศทางขาขึ้นหรือไม่คงตอบลำบาก เพราะว่าตอนนี้มีทั้งปัจจัยบวกและลบ เพราะราคาน้ำมันอาจจะขึ้นก็ได้เมื่อมีการใช้มากขึ้น ในทางกลับกันหากมีการใช้น้ำมันในปริมาณน้อยลง เนื่องจากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จึงเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ราคาน้ำมันได้” นายวิศักดิ์ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image