เปิด 3 กลุ่มธุรกิจขึ้นแท่นดาวเด่นปี66 “ไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม”พระเอกดันเศรษฐกิจ

เปิด 3 กลุ่มธุรกิจขึ้นแท่นดาวเด่นปี66 “ไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม”พระเอกดันเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ติดตามสถานการณ์การค้า พร้อมกับวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในแต่ละกลุ่มเพื่อนำมาวางนโยบายส่งเสริมธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคต สำหรับปี 2566 นำข้อมูลธุรกิจช่วงปีที่ผ่านมาวิเคราะห์ร่วมกับสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจช่วง 11 เดือนแรกปี 2565 งบการเงินและผลประกอบการของธุรกิจ รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่นๆ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจด้วย

นายสินิตย์ กล่าวว่า พบว่า มี 3 กลุ่มธุรกิจ แบ่งเป็นธุรกิจ 8 ประเภท ที่เป็นโอกาสของนักลงทุนที่น่าจับตา และยังมีปัจจัยที่สนับสนุนให้ธุรกิจกลุ่มนี้ขยายตลาดออกไปได้ไกล แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมา โลกเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ผลมาจากการระบาดของโควิด-19 แต่ถ้ามองกลับมุมจะเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในแต่ละธุรกิจ ผู้ประกอบธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้ทันและวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจจากการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน

สำหรับธุรกิจที่มีทิศทางที่สดใสในปี 2566 ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ธุรกิจเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ (ไลฟ์สไตล์) สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคปัจจุบันที่เน้นความคล่องตัว แบ่งเป็นธุรกิจ 4 ประเภท คือ 1.อาหารแช่แข็ง อาทิ สัตว์น้ำ เนื้อสัตว์ อาหาร ผลไม้และสัตว์ พบว่า ปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 99 ราย เพิ่มจากปี 2564 จำนวน 87% ทุนจดทะเบียนรวม 321 ล้านบาท 2.ธุรกิจด้านสุขภาพ และความงาม อาทิ บริการทางการแพทย์ สปาและความงาม และสถานที่ออกกำลังกาย พบว่า ปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 1,262 ราย เพิ่มจากปี 2564 จำนวน 70% ทุนจดทะเบียนรวม 2,787 ล้านบาท

3. ธุรกิจด้านยาสมุนไพร อาทิ ปลูกพืชที่ใช้เป็นยารักษาโรค ขายเภสัชภัณฑ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ พบว่า ปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 2,126 ราย เพิ่มจากปี 2564 จำนวน 8% ทุนจดทะเบียนรวม 4,992 ล้านบาท และ 4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง อาทิ รับดูแลสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์ พบว่า ปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 468 ราย เพิ่มจากปี 2564 จำนวน 36% ทุนจดทะเบียนรวม 2,796 ล้านบาท

Advertisement

นายสินิตย์ กล่าวว่า กลุ่มที่ 2 ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การประชุม การจัดเลี้ยง ได้รับอานิสงส์จากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิดที่ผ่อนคลายลงและนโยบายส่งเสริมให้เกิดการเดินทางในประเทศและระหว่างประเทศ การเปิดประเทศของจีนในปีนี้ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น อีกทั้งช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีการจัดงานประชุมใหญ่ และงานจัดแสดงสินค้าต่างๆ เพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้

ทั้งนี้ ธุรกิจที่มีแนวโน้มขาขึ้น 2 ประเภท คือ 1.ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เช่น นำเที่ยว โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร และที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 4,852 ราย เพิ่มจากปี 2564 จำนวน 82% ทุนจดทะเบียนรวม 11,003 ล้านบาท และ 2.ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดงาน การประชุม กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดเลี้ยง จัดประชุม การแสดงธุรกิจ/สินค้า การถ่ายภาพ โดยปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่จำนวน 1,830 ราย เพิ่มจากปี 2564 จำนวน 20% ทุนจดทะเบียนรวม 2,773 ล้านบาท

นายสินิตย์ กล่าวว่า กลุ่มที่ 3 ธุรกิจที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม จากเทรนด์ตลาดโลกที่หันมาแข่งขันด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่า นวัตกรรมต่างๆ ที่สร้างมาเพื่อทดแทนการใช้วัสดุจากธรรมชาติและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมส่งผลดีกับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 2 ประเภท คือ 1.ธุรกิจการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การนำวัสดุที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ การให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม

Advertisement

โดยปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 133 ราย เพิ่มจากปี 2564 จำนวน 51% ทุนจดทะเบียนรวม 405 ล้านบาท และ 2.ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เช่น ผลิตยานยนต์ส่วนบุคคลและยานยนต์ชนิดอื่นๆ ผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง สอดรับกับยอดการจองยานยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Expo 2022 ที่สูงถึง 16% ของยอดจองในงานทั้งหมด โดยปี 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 62 ราย จำนวนรวมของธุรกิจที่จัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น 55% จากปี 2564 ทุนจดทะเบียนรวม 5,923 ล้านบาท

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ธุรกิจ 8 ประเภท มีจำนวนธุรกิจรวม 94,035 ราย ทุนจดทะเบียนสูงถึง 1,326,042 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ธุรกิจอาหารแช่แข็ง 838 ราย ทุนจดทะเบียน 55,875 ล้านบาท 2. ธุรกิจด้านสุขภาพ และความงาม 7,707 ราย ทุนจดทะเบียน 47,896 ล้านบาท 3.ธุรกิจด้านยาสมุนไพร 14,418 ราย ทุนจดทะเบียน 112,678 ล้านบาท 4.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง 2,951 ราย ทุนจดทะเบียน 29,330 ล้านบาท

5.ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว 45,785 ราย ทุนจดทะเบียน 794,047 ล้านบาท 6.ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดงาน การประชุม กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง 20,421 ราย ทุนจดทะเบียน 114,121 ล้านบาท 7.ธุรกิจการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม 1,158 ราย ทุนจดทะเบียน 10,302 ล้านบาท และ 8.ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า 757 ราย ทุนจดทะเบียน 161,789 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image