สศค.เผยเศรษฐกิจต.ค. ขยายตัวดี รอความชัดเจนมาตรการเข้าครม.ก่อนนำมาวิเคราะห์

นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนตุลาคม 2559 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคม 2559 ขยายตัวดีจากการบริโภคภาคเอกชนและการเบิกจ่ายภาครัฐ ขณะที่ผลผลิตสินค้าเกษตรที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่งรองรับความผันผวนจากภายในและภายนอกประเทศได้ โดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัว โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ยังขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3.1% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7โดยเป็นการขยายตัวทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ยังขยายตัว 3.8% นอกจากนี้ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่สามารถขยายตัวได้ที่ 0.3% จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศที่ขยายตัว 1.1% ขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลโดยเฉพาะรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนขยายตัวดีต่อเนื่อง สะท้อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือนตุลาคม 2559 สามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 4.35 แสนล้านบาท ขยายตัว 16.3 %จากช่วงเดียวกันปีก่อน

นายพรชัย กล่าวว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการผลิตยังคงมีสัญญาณที่ดี สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่ยังขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 5.9% และขยายตัว 6.2% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วหลังปรับผลทางฤดูกาล โดยเป็นผลจากการขยายตัวของหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะยางพารา ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน และกลุ่มไม้ผล ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรหดตัวเล็กน้อยที่ -1.2% เนื่องจากราคาในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ที่ราคาหดตัวเนื่องจากเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว รวมถึงราคามันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในขณะที่ราคายาง และปาล์มน้ำมันยังขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ระดับ 86.5 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่ทั้งจากผู้บริโภคภายในประเทศและต่างประเทศ

นายพรชัย กล่าวว่า เสถียรภาพเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวอยู่ที่ 0.3% และ 0.7% ตามลำดับ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ 1.2% ของแรงงานรวม หรือคิดเป็นผู้ว่างงาน 4.5 แสนคน นอกจากนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2559 อยู่ที่ระดับ 42.8% ถือว่ายังอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกิน 60.0% ส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 อยู่ที่ 180.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 3.2 เท่าเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้น สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจไทยในการรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้

“สำหรับมาตรการด้านเศรษฐกิจนั้น สศค.อยู่ระหว่างนำมาใส่ในโมเดล เพื่อดูผลของมาตรการ และคงต้องรอดูว่าชัดเจนกรณีช้อปปิ้งว่า ครม.มีมติอย่างไรออกมา ถ้ายังไม่ชัดเจนคงให้ความเห็นไม่ได้ ส่วนมาตรการกระตุ้นอื่นๆ ว่าจะมีอะไรเพิ่มนั้นยังเปิดเผยไม่ได้”นายพรชัย กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image