บิ๊กซีลดขายเหล้า บุหรี่ อ้างไม่ทำกำไร ปีหน้าทุ่ม 1 หมื่นล.ขยายสาขา ลงทุนเพิ่ม

นายรามี ปีไรเนน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (บีเจซี) เปิดเผยว่า หลังจากบีเจซีได้เข้ามาบริหารกลยุทธ์บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) พบว่ามีสินค้าบางประเภทที่มีต้นทุนการเก็บ ขนส่ง และบริหารจัดการสูงแต่มีอัตรากำไรต่ำจนทำให้บริษัทไม่ได้กำไร เช่น บุหรี่ เหล้า ซึ่งคิดเป็น 15% ของยอดขายทั้งหมดของบิ๊กซี จึงได้เริ่มปรับกลยุทธ์ลดการขายสินค้าที่ไม่ทำกำไรและหันมาเน้นขายอาหารสดแทนเพื่อเพิ่มกำไรจากการขายมากขึ้นทำให้ไตรมาสที่ 3/2559 บริษัทมียอดขายลดลง 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนแต่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนทำได้ 12.93% โดยบิ๊กซียังคงเป้าหมายเป็นผู้นำด้านสินค้าราคาถูกต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 บีเจซีและบิ๊กซีตั้งงบลงทุนรวม 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงบของบิ๊กซี 8,000 ล้านบาท ใช้เพื่อขยายบิ๊กซีไฮเปอร์มาร์เก็ต 9 สาขา บิ๊กซีมาร์เก็ต 4 สาขา มินิบิ๊กซี 200 สาขา ปรับปรุงสาขาเดิมอีก 42 สาขา และอีก 20% เป็นงบลงทุนของบีเจซี โดยปัจจุบันบิ๊กซีมีจำนวนสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ตรวม 128 สาขา (บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้าและบิ๊กซีจัมโบ้) บิ๊กซีมาร์เก็ต 59 สาขา มินิบิ๊กซี 431 สาขา (21 สาขาแฟรนไชส์)

ทั้งนี้ ประเมินว่ายอดขายต่อสาขาเดิมในปี 2560 จะเติบโตอยู่ที่ 2-3% และยอดขายจะเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติหลังปรับกลยุทธ์การขายสินค้าได้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560 เป็นต้นไป สำหรับบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสที่ 4/2559 คาดว่าจะยังซบเซาต่อเนื่อง เพราะประชาชนยังอยู่ในภาวะโศกเศร้า ขณะที่ยอดขายเสื้อผ้าได้รับผลกระทบจากบรรยากาศดังกล่าวเช่นกัน เสื้อผ้าที่จะขายในช่วงนี้ได้จะต้องเป็นเสื้อสีขาวและดำซึ่งมีปริมาณสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image