| ผู้เขียน | ทีมข่าวเศรษฐกิจ |
|---|
รัฐเครื่องกระตุก เคาะกฎจีนเที่ยวไทยไม่เคลียร์ พลิกสถานการณ์ทัน ก่อนโดน นทท.ทั่วโลกเท!!
หลังจากที่รอคอยมานาน ในที่สุด “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ที่นักท่องเที่ยวถือเป็นเบอร์หนึ่งของไทยในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ได้เปิดประเทศ และอนุญาตให้มีการเข้า-ออกประเทศได้ เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา โดยออกประกาศ เรื่องการคลายล็อกเดินทางเข้า-ออกประเทศทั่วโลกรวมถึงไทย ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีของไทย ที่จะมีรายได้ด้านการท่องเที่ยวหมุนคืนกลับเข้ามาในประเทศอีกครั้ง
⦁ 7ข้อกำหนดร้อน!!…รับ นทท.จีน
เครื่องยนต์ดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยกำลังเร่งเครื่องออกตัว แต่ไม่ทันไรดันมากระตุกเสียก่อน เพราะเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้จัดทำประกาศนักบิน (NOTAM) เรื่อง ข้อกำหนดในการเข้าประเทศไทยสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยจะเริ่มใช้วันที่ 9 มกราคม 2566 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 00.59 น.
ประกอบด้วยข้อกำหนด 7 ข้อ ได้แก่ 1.ผู้โดยสารอายุมากกว่า 18 ปี ต้องแสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือจดหมายจากแพทย์ที่รับรองว่าหายจากโรคโควิด-19 แล้วไม่เกิน 6 เดือน (180 วัน) ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้รับวัคซีน ต้องมีจดหมายจากแพทย์พร้อมแสดงเหตุผล 2.ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่มีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ติดโควิด-19 เดินทางกลับเข้าประเทศ จะต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ตลอดช่วงระยะเวลาเดินทางในประเทศไทยและบวกเพิ่มอีก 7 วัน สำหรับผู้มาประกอบภารกิจรวมถึงลูกเรืออาจจะใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพรับรองแทน 3.ผู้โดยสารที่ถือพาสปอร์ตไทย ได้รับการยกเว้นในการตรวจสอบเอกสารการได้รับวัคซีนและเอกสารประกันสุขภาพ
4.ผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่อง ได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารการได้รับวัคซีนและเอกสารประกันสุขภาพ โดยผู้โดยสารเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดของประเทศปลายทาง 5.สายการบินต้องตรวจสอบเอกสารตามที่กล่าวมา ถ้าผู้โดยสารไม่สามารถแสดงเอกสารเหล่านี้ได้ สายการบินจะต้องปฏิเสธไม่ให้ผู้โดยสารเดินทาง 6.สายการบินต้องยึดตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามคู่มือแนวทางตามความเหมาะสม เช่น ขอให้ผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากตลอดการเดินทาง ยกเว้นช่วงรับประทานอาหาร หรือในภาวะฉุกเฉิน และ 7.ผู้โดยสารที่มีอาการของโรคโควิด-19 ระหว่างการเดินทาง จะได้รับการแนะนำให้ทำการตรวจการติดเชื้อ เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย
⦁ ประกาศใหม่ทำ นทท.-ธุรกิจสับสน
ทันทีที่ประกาศดังกล่าวออกมา ด้วยความไม่เคลียร์ว่าพุ่งเป้านักท่องเที่ยวจีนหรือประเทศอื่นด้วย จึงได้สร้างความสับสนให้กับนักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างเดินทางเข้าไทย ถึงขั้นที่นักท่องเที่ยวบางประเทศต้องยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทยเพราะไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ดังกล่าวได้ทัน กพท.จึงโดนเบรกล้อฟรี แบบกลับรถแทบไม่ทัน!!
เรื่องนี้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาแก้เกมทันควัน เมื่อวันที่ 10 มกราคม โดยระบุว่า กพท.ได้ออกประกาศ NOTAM ฉบับปรับปรุงใหม่ จากฉบับเดิม A0055/23 ออกเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2566 หลังจากกระทรวงสาธารณสุขปรับมาตรการในการเข้าประเทศไทย สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ดังนี้ 1.ยกเลิกข้อกำหนดการรับวัคซีนก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย 2.ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่กำหนดผลตรวจ RT-PCR TEST จะต้องมีประกันสุขภาพวงเงินไม่น้อยกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ ครอบคลุมการรักษาโควิดตลอดช่วงระยะเวลาเดินทางในประเทศไทย และบวกเพิ่มอีก 7 วัน
สำหรับผู้มาประกอบภารกิจ รวมถึงลูกเรือ นักเรียน อาจจะใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพ หรือเอกสารแสดงถึงการมีประกันรูปแบบอื่นรับรองแทน ผู้โดยสารที่ไม่มีประกันสุขภาพจะไม่เป็นเหตุของการถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่ด่านกักกันจะสุ่มตรวจเอกสารรับรองประกันสุขภาพของผู้โดยสารจากประเทศดังกล่าว หากพบว่าไม่มีประกันสุขภาพ ผู้โดยสารนั้นจะต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าเมือง และหากมีระเบียบหรือข้อกำหนดอื่นใดจากกระทรวงสาธารณสุข ให้สายการบินดำเนินการตามระเบียบข้อกำหนดนั้น
3.ผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางไทย และผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่องได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารประกันสุขภาพ 4.สายการบินต้องยึดตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามคู่มือแนวทางตามความเหมาะสม 5.ผู้โดยสารที่มีอาการของโควิด-19 ระหว่างการเดินทางจะได้รับการแนะนำให้ทำการตรวจการติดเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย 6.หากมีคำถามข้อสงสัย ติดต่อกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โดยข้อกำหนดใหม่ทั้ง 6 ข้อ ถือว่าเป็นข้อปฏิบัติปัจจุบัน เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 10 มกราคม 2566 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 23.59 น.
แม้ว่าตอนนี้ในส่วนของข้อกำหนดต่างๆ จะคลี่คลายแล้ว มีการปรับปรุงฉบับใหม่ออกมา แต่กว่าจะคลี่คลายก็ได้สร้างความสับสนให้กับนักท่องเที่ยวจนเกือบจะเทประเทศไทยและมุ่งหน้าประเทศอื่นแทน
⦁ แนะรัฐคุยให้ชัดก่อนเคาะกฎเกณฑ์
หลังเกิดประเด็นดังกล่าว ทางภาคเอกชนอย่าง ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ให้ความเห็นว่า จากประกาศล่าสุดของ กพท.ที่กำหนดเงื่อนไขรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวไทย โดยได้ยกเลิกข้อกำหนดการต้องแสดงผลรับวัคซีน 2 เข็มก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย แต่คงเงื่อนไขการทำประกันที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐนั้น โดยเบื้องต้นกฎเกณฑ์ที่กำหนดมาถือว่าค่อนข้างมีความผ่อนคลาย และชัดเจนมากขึ้นแล้ว แต่อยากให้เวลาที่ภาครัฐจะออกเงื่อนไขอะไรใหม่ๆ ออกมา โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับการเข้าประเทศนั้น อยากให้ใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบ และหากเป็นไปได้อยากให้มีการหารือร่วมกับเอกชนก่อนด้วย
หากมีเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องออกในครั้งต่อๆ ไป ไม่อยากให้ภาครัฐรีบเร่งในการออกมาแบบ 1-2 วัน หรือประกาศออกมาทันที เพราะพอมีการประกาศอะไรที่ออกมาเร็วเกินไป ก็กระทบกับภาคเอกชน ที่ไม่สามารถแจ้งกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องได้ อาทิ ทัวร์ต่างชาติ และลูกค้าโดยตรง เพราะปกติหากจะมีการประกาศเงื่อนไขใหม่ควรให้เวลาอย่างน้อย 15 วันก่อนใช้จริง เพื่อให้เตรียมตัวปฏิบัติตามได้ และอยากให้มีการหารือกันให้เข้าใจในทิศทางเดียวกัน และประกาศออกมาแบบชัดเจนเป็นทางการ เพื่อลดความสับสนของทั้งนักท่องเที่ยว และผู้ที่จะต้องนำไปปฏิบัติจริงอีกด้วย
จากการสะท้อนของภาคเอกชนทำให้เห็นว่า การทำอะไรที่เร็วเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะสุดท้ายแล้วหากสื่อสารไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่สุดแล้วจะทำให้เกิดปัญหา ซึ่งในรอบนี้ยังดีที่เป็นเพียงการเริ่มต้น แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยกเลิกการจองตั๋วโดยสาร และที่พักออกไปก่อน
โดยในครั้งนี้ภาคเอกชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาล แก้ไขสถานการณ์ได้เร็ว ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นเพียงสั้นๆ จริงๆ เท่านั้น แต่หากเป็นเช่นนี้บ่อยครั้ง เห็นทีนักท่องเที่ยวคงเบนเข็มหนี้ไปเที่ยวประเทศอื่นที่มีความพร้อมกว่าเป็นแน่
หลังจากนี้ต้องติดตามว่ารัฐจะออกมาตรการเร็วแต่ไม่จบออกมาอีก หรือจะรับฟังเสียงจากเอกชนและภาคประชาชน ที่ต้องการให้คำประกาศครั้งต่อไปของภาครัฐ ชัด ชัวร์ เคลียร์ เพียงฉบับเดียว!!
