เงินบาทเปิด 33.02 บาท/เหรียญสหรัฐ ‘อ่อนค่าเล็กน้อย’ หลังดอลล์พลิกแข็งค่า

แฟ้มภาพ

เงินบาทเปิด 33.02 บาท/เหรียญสหรัฐ ‘อ่อนค่าเล็กน้อย’ หลังดอลล์พลิกแข็งค่า

เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.02 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.99 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.85-33.10 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

นายพูน กล่าวว่า แม้ว่าปริมาณการซื้อ ขาย อาจเบาบางลง เนื่องจากตลาดการเงินฝั่งสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันหยุดวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ทว่า บรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมยังคงเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ต่อเนื่อง โดยในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้น 0.46% ทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน ตามความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่ผู้เล่นในตลาดคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดประเทศของจีน (China’s Reopening)

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท การผันผวนอ่อนค่าลงของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา หลังแข็งค่าแตะระดับ 32.71 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนหนึ่งมาจากการพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินเหรียญสหรัฐในช่วงระหว่างวัน โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว และแรงขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB ของผู้เล่นในตลาด อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า เงินบาทก็ไม่ได้อ่อนค่ารุนแรงต่อเนื่อง จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ ตลาดพลิกกลับมาปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) มากขึ้น

ทั้งนี้ มองว่าในวันนี้ สกุลเงินฝั่งเอเชียอาจผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง หากตลาดเริ่มขายทำกำไรธีมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความหวังการเปิดเมืองของจีน โดยเฉพาะในกรณีที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจออกมาซบเซาหนักและแย่กว่าคาดไปมาก ซึ่งอาจเห็นแรงขายหุ้นจีนและหุ้นฮ่องกงออกมาบ้าง พร้อมกับการอ่อนค่าลงเล็กน้อยของเงินหยวน (CNY & CNH)

Advertisement

นายพูน กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ประเมินว่า สกุลเงินเอเชียโดยรวมและเงินบาทจะไม่ได้อ่อนค่าไปมากและยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพราะยังมีโอกาสที่สกุลเงินเอเชียอาจได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินเหรียญสหรัฐ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรปออกมาดีกว่าคาดและช่วยให้เงินยูโร (EUR) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง

ด้านตลาดค่าเงิน เงินเหรียญสหรัฐพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ล่าสุด ดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ (DXY) ได้รีบาวด์ขึ้นสู่ระดับ 102.3 จุด โดยส่วนหนึ่งอาจได้แรงหนุนจากการขายทำกำไรสถานะ Short USD vs สกุลเงินอื่นๆ ดังจะเห็นได้จากการที่เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) พลิกกลับมาอ่อนค่าแตะระดับ 128.4 เยนต่อเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้าเงินเยนญี่ปุ่นได้แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ผู้เล่นในตลาดก็ต่างรอผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ทำให้ผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรก่อนรับรู้ผลการประชุมได้บ้าง

“สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มผลกระทบของการระบาดโควิดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ต่อภาพรวมเศรษฐกิจจีน โดยตลาดคาดว่าการระบาดในช่วงปลายปีก่อนหน้ากดดันให้เศรษฐกิจจีนไตรมาส 4 ชะลอลงชัดเจน โดยเศรษฐกิจอาจขยายตัวเพียง 1.6% เมื่อเทียบกับชีวิตเดียวกันปีก่อน ทำให้ทั้งปีเศรษฐกิจจีนอาจโตน้อยกว่า 3.0% เมื่อเทียบกับชีวิตเดียวกันปีก่อน”นายพูน กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image