สุริยน พูลวรลักษณ์ สร้างดาวดวงใหม่ ปั้น ‘เอสพีเจ แลนด์’ ลุยบ้านหรูหลังละ 100 ล้าน
หวนคืนสู่สนามธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง สำหรับ “สุริยน พูลวรลักษณ์” วัย 50 กะรัต หนึ่งในทายาทของยักษ์อสังหามหาชน “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” หลังตัดสินใจแยกตัวออกจากธุรกิจครอบครัว มาปลุกปั้นธุรกิจของตัวเอง มี “จิตรดี” ภรรยาร่วมขับเคลื่อน
โดย “สุริยน-จิตรดี” ตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด หรือ SPJ ซึ่ง S มาจาก สุริยน ส่วน P มาจาก พูลวรลักษณ์ และ J คือ จิตรดี นั่นเอง
บริษัทใหม่นี้ มีทุนจดทะเบียน 120 ล้านบาท มี”สุริยน”นั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท และมีจิตรดี เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
“สุริยน” เล่าว่า หลังออกจากเมเจอร์ฯ ได้ 2 ปี ได้แยกออกมาทำธุุรกิจของตัวเอง ก่อตั้งบริษัท เอสพีเจ แลนด์ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบไพรเวท ลักชัวรี่ ชูจุดขายทำเลใจกลางเมือง โดยโครงการแรกอยู่ที่เอกมัยซอย10 ชื่อโครงการ “ลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10” มีเนื้อที่ 1 ไร่ จำนวน 7 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
รูปแบบเป็นบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จก่อนขาย ขนาด 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 429.97- 546.61 ตารางเมตร พร้อมลิฟท์ส่วนตัวภายในบ้านและที่จอด 4-6 คัน รองรับระบบอีวีชาร์จเจอร์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ราคาเริ่มต้น 80-105 ล้านบาท เจาะลูกค้ากลุ่มเฉพาะ เช่น นักธุรกิจ เจ้าของกิจการ
หลังเปิดขายเมื่อต้นเดือนมกราคม 2566 ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีลูกค้าเป็นนักธุรกิจไทยมาซื้อแล้ว 1 ยูนิต ราคา 87 ล้านบาท ด้วยศักยภาพของทำเลแล้ว มั่นใจจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้ รวมถึงประเมินจากภาพรวมตลาดอสังหาฯและเศรษฐกิจในปีนี้แล้ว มีการขยายตัวเพิ่มจากปีก่อน น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้คนมั่นใจที่จะซื้อบ้านมากขึ้น
“การที่ผมตัดสินใจมาทำตลาดบ้านลักชัวรี่ เพราะตลาดยังมีช่องว่าง ยังไม่มีใครทำบ้านหรูในเมือง ซึ่งตลาดกลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เพราะเป็นลูกค้าเรียลดีมานด์ ซื้ออยู่จริง” สุริยนเปิดใจถึงที่มาที่ไป
แต่เพราะเป็นทำในเมือง “สุริยน” บอกว่า กว่าจะหาที่ดินมาพัฒนาโครงการได้ ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี เพราะหายาก โดยได้ซื้อบ้านเก่าพร้อมที่ดินในราคา 100 ล้านบาทจากเจ้าของเดิม ทุบแล้วสร้างโครงการขึ้นมาใหม่ ในขณะนั้นราคาที่ดินโซนนี้ยังอยู่ที่ตารางวาละ 3-4 แสนบาท ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็นตารางวาละ 5 แสนบาทแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นทุกปี
สำหรับโมเดลธุรกิจของบริษัท เอสพีเจนั้น “สุริยน” วางเป้าหมายจะลงทุนพัฒนาโครงการปีละ 2 โครงการ ขนาดโครงการประมาณ 10 ยูนิต ระดับราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท โดยโฟกัสรัศมีถนนสุขุมวิท โซนทองหล่อ เอกมัย จะไม่ให้เกินพระโขนง เนื่องจากทำเลโซนนี้มีศักยภาพสูง มีรถไฟฟ้าบีทีเอสพาดผ่าน มีศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ทั้งที่เปิดบริการแล้วและกำลังจะเปิดใหม่ในเร็วๆนี้ รวมถึงมีโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติด้วย
“สุริยน” ไล่เรียงแผนการพัฒนา หลังเปิดตัวโครงการเอกมัย 10 แล้ว ภายในปีนี้เตรียมจะพัฒนาโครงการแนวราบอีก 1 โครงการ จำนวนประมาณ 10 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท จะเริ่มสร้างปีนี้ ใช้เวลาก่อสร้าง 10 เดือนและเปิดขายภายในไตรมาสแรกปี 2567
แม้จะเป็นก้าวแรกที่แยกตัวมาทำธุรกิจของตัวเอง แต่ “สุริยน” กล่าวอย่างมั่นใจว่า เมื่อเราโตก็ต้องแตก แตกแล้วก็ต้องโตขึ้นไปเรื่อยๆ ผมมีประสบการณ์ด้านอสังหาฯลักชัวรี่มากว่า 20 ปีจากเมเจอร์ฯ ทั้งพัฒนาคอนโดมิเนียม โรงแรม และที่พักอาศัย
อยากให้เอสพีเจแลนด์ เป็นบริษัทพัฒนาเรียลเอสเตทแบบนิชมาร์เก็ตด้านลักชัวรี่จริงๆ โดยเป้าหมายของเราคือไม่ใช่แมส ไม่ใช่โปรดักส์สำหรับทุกคน แต่จะเป็นโปรดักส์สำหรับลูกค้าที่ใช่จริงๆ และลักชัวรี่เป็นตลาดที่มีความถนัดและมีดาต้าเบสของลูกค้าอยู่แล้ว
