“เฟรเซอร์ส” รุกหนักบ้านเดี่ยว คอนโด เล็งปัดฝุ่นที่เกษตร-กัลปพฤกษ์ ผุดบ้านหรู 60-150 ล้าน

“เฟรเซอร์ส” รุกหนักบ้านเดี่ยว คอนโด เล็งปัดฝุ่นที่เกษตร-กัลปพฤกษ์ ผุดบ้านหรู 60-150 ล้าน

วันที่ 18 มกราคม นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่มเจ้าสัวเจริญ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 ยังขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งแนวราบยังมีความต้องการสูงโดยเฉพาะบ้านเดี่ยวราคาแพงและคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทที่เริ่มกลับมาขยายตัว จะสอดรับกับแผนธุรกิจของบริษัทปีนี้จะขยายพอร์ตบ้านเดี่ยวทุกระดับราคา เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงขยายพอร์ตคอนโดมิเนียมจับกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ส่วนทาวน์โฮมและบ้านแฝดจะลดน้ำหนักการเปิดใหม่ เพราะยังมีสต็อกเหลืออยู่ 3,000 ล้านบาท ตลอดปีนี้จะจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย

โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรอรับรู้รายได้ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนที่มีรายได้ 11,392 ล้านบาท และเปิดตัว 11 โครงการใหม่ มูลค่า 17,500 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล แยกเป็นบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ทาวน์โฮม 2 โครงการ บ้านแฝด 1 โครงการ คอนโดมิเนียม 1 โครงการขณะเดียวกันเตรียมเงิน 5,000-6,000 ล้านบาทซื้อที่ดินเพิ่ม รองรับการพัฒนาโครงการใหม่

“ปีนี้จะขยายพอร์ตบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ และระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ระดับราคา 60-150 ล้านบาท ใน 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ เดอะ โรยัล เรสซิเดนซ์ มี 2 โครงการที่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ จำนวน 31 หลัง ซึ่งเป็นเฟสต่อเนื่องและถนนกัลปพฤกษ์ เนื้อที่ 200 ไร่ ยังมีแบรนด์อัลพีน่า และเดอะ แกรนด์ ซึ่งการพัฒนาบ้านเดี่ยวราคาสูงขึ้นเพราะราคาที่ดินแพง โดยก่อนและหลังโควิดราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 75% เช่น โซนวัชรพล-สายไหม ปรับขึ้น 52.3% ซึ่งราคาที่ดินแพงเป็นอีกปัจจัยสะท้อนต้นทุนและราคาอสังหาฯปีนี้ ”นายแสนผินกล่าว

นายแสนผินกล่าว่า ส่วนคอนโดมิเนียมจะเติบโตใน 2 แนวทาง คือ บริษัทซื้พัฒนาเองและเทกโอเวอร์โครงการมาพัฒนา โดยเน้นทำเลในเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เช่น ลาดพร้าว รัชดาภิเษก รามอินทรา และฝั่งธนบุรี ระดับราคา 3-5 ล้านบาท โดยกลางปีนี้จะเปิดตัวโครงการ kLOS รัชดาภิเษก อยู่หลังศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา เป็นคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น จำนวนกว่า 100 ยูนิต ขนาด 25-26 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ที่ 1.3 แสนบาทต่อตารางเมตร อีกโครงการอยู่ย่านหลังสวนเป็นการเทกโอเวอร์อาคารเดิมมาพัฒนาใหม่ เนื่องจากเห็นโอกาสหลังโควิดคลี่คลาย การเปิดประเทศ และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจะทำให้คอนโดมิเนียมเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

Advertisement

“ปีนี้ยังคงมีข้อกังวลเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่กระทบต่อการปล่อยกู้คนซื้อบ้าน ที่แบงก์เข้มงวด ทำให้ยอดปฎิเสธสินเชื่อเพิ่ม โดยปีที่แล้วบริษัทมียอดปฎิเสธสินเชื่อบ้านเดี่ยว 30% ทาวน์โฮม 50-60% หวังว่าปีนี้จะมีแนวโน้มลดลง แต่ก็มีปรากฎการณ์คนซื้อเงินสดมากขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 65% สำหรับบ้านเดี่ยวราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป”นายแสนผินกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image