เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จับตาเคลื่อนไหวผันผวนช่วงรับรู้ผลประชุม กนง.วันนี้!

เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จับตาเคลื่อนไหวผันผวนช่วงรับรู้ผลประชุม กนง.วันนี้!

เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.77 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 32.83 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.60-32.85 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทมองว่าแรงขายทำกำไรการรีบาวด์ขึ้นของเงินเหรียญสหรัฐ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้โซนแนวต้านคือปัจจัยที่ช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนในวันนี้ประเมินว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงที่ธุรกรรมในตลาดการเงินยังคงเบาบางกว่าปกติ เนื่องจากผู้เล่นในหลายตลาดอยู่ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

อย่างไรก็ดี มองว่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีแนวต้านในช่วงนี้แถว 32.90-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ (โซนที่ผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินเหรียญสหรัฐ) ส่วนแนวรับจะยังคงเป็นโซน 32.50-32.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังคงเห็นแรงซื้อเงินเหรียญสหรัฐและโฟลว์ขายทำกำไร Short USDTHB

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนของเงินบาทในช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพราะหากท่าทีของ กนง.เริ่มส่งสัญญาณอยากชะลอการขึ้นดอกเบี้ยลงบ้าง หรือไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็อาจเป็นปัจจัยกดดันให้เงินบาทผันผวนฝั่งอ่อนค่าลงได้บ้าง และผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็อาจขายทำกำไรบอนด์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว หลังบอนด์ยีลด์ได้ปรับตัวลงมาพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา (Sell on Fact)

Advertisement

นายพูนกล่าวว่า ด้านตลาดค่าเงิน เงินเหรียญสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ โดยดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 102 จุด ทั้งนี้ เงินเหรียญสหรัฐยังคงเผชิญแรงขายทำกำไรในจังหวะการรีบาวด์ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย หรือ ขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้าได้ ตามการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐและภาพรวมเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง

“วันนี้ปัจจัยที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิดคือผลการประชุม กนง. โดยมองว่าระดับอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย ยิ่งได้แรงหนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ กนง.มีมติเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.50%

“ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตามุมมองของ กนง.ต่อแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินในอนาคตอย่างใกล้ชิด หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนเริ่มประเมินว่า กนง.อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยลงได้” นายพูนระบุ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image