ผู้ส่งออกข้าว จับตา”บาทแข็ง” ลังเลเป้า 7.5 ล้านตัน พณ.เคาะประกันรายได้ข้าวงวด 16

ผู้ส่งออกข้าว จับตา”บาทแข็ง” ลังเลเป้า 7.5 ล้านตัน พณ.เคาะประกันรายได้ข้าวงวด 16

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวด 16 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่าง 21-27 มกราคม 2566 ปรากฏว่า ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกันรายได้เกือบทุกชนิดข้าว โดยมีเพียงข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ซึ่งมีเกณฑ์กลางตันละ 13,656.68 บาท ที่เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 343.32 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,493.12 บาท สำหรับข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสูงกว่าราคาประกัน ดังนี้ ข้าวเปลือกปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,177.49 บาท ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 10,081.45 บาท และข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,553.52 บาท สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว

“สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า หลายประเทศยังมีความต้องการข้าวขาว โดยเฉพาะอิรัก ส่งผลให้ราคาข้าวขาวปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงข้าวหอมปทุมธานีสูงขึ้นจากความต้องการแทนข้าวหอมมะลิที่ราคาส่งออกเพิ่มสูงขึ้น สำหรับเป้าหมายการส่งออกปี 2566 สมาคมตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 7.5 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม คงรอดูสถานการณ์การปรับตัวของค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง” นายอุดม กล่าว

นายอุดม กล่าวต่อว่า การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างในงวดที่ 16 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 โดยในงวดที่ 1-15 ที่ผ่านมาจ่ายส่วนต่างแล้ว จำนวน 2.59 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,844.16 ล้านบาท ในส่วนของการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ไร่ละพันบาท) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินให้เข้าบัญชีเกษตรกรแล้วกว่า 4.61 ล้านครัวเรือน ทั้งนี้ การโอนเงินยังคงมีกรณีโอนเงินไม่สำเร็จจากปัญหาด้านบัญชีเงินฝาก จึงขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝากและติดต่อกับ ธ.ก.ส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการ เช่น กรณีปัญหา ชื่อ- สกุล ไม่ตรง บัญชีปิด บัญชีถูกอายัด หรือหากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป

แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าว ระบุว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกกำลังจัดตาและห่วงผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งและผันผวนเร็ว เพราะทุก 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มีผลต่อราคาส่งออกข้าวเปลี่ยนแปลง 15-20 เหรียญสหรัฐต่อตัน และทำให้การเจรจาการค้าทำได้ยากขึ้น อาจมีผลต่อเป้าหมายส่งออกปี 2566 ที่สมาคมมองไว้ 7.5-8.0 ล้านตัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image