ปาดเหงื่อค่าไฟ พ.ค.-ส.ค.66 ผวาจ่าย 5.2 บาท/หน่วย ขึ้นกับ 3 ปัจจัยร้อน!!

กกพ.จับตา 3 ปัจจัยเคาะค่าไฟงวดหน้า พ.ค.-ส.ค.66 ยึดราคา 5.2 บ./หน่วย ลุ้นรัฐต่ออายุ 2 กลุ่ม

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 ว่า จะสรุปอัตราค่าเอฟทีได้ประมาณเดือนมีนาคมนี้ เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน และเริ่มใช้เดือนพฤษภาคม เนื่องจากต้องพิจารณาต้นทุนเชื้อเพลิงและปัจจัยผลกระทบให้รอบด้านเพื่อให้การพยากรณ์ใกล้เคียงมากที่สุด

โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ 1.ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยว่าจะผลิตได้เท่าไร โดยก๊าซฯส่วนนี้จำเป็นที่สุดเพราะราคาเพียง 6-7 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู 2.ปริมาณแอลเอ็นจีสปอต หรือ ก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร ที่ปัจจุบันราคากว่า 20 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู ซึ่งราคานี้ถือว่าลดลงพอสมควรแต่ต้องติดตามความผันผวนหลังจากนี้อีกครั้ง และ 3.อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่เดิมประเมินจากระดับ 37-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าเหลือระดับ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเงินบาทระดับนี้ส่งผลดีต่อแนวโน้มค่าหลังจากนี้แน่นอน

“แม้แนวโน้มราคาแอลเอ็นจีสปอต และค่าเงิน จะส่งผลดีต่อค่าไฟงวดหน้า แต่กกพ.ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าแนวโน้มจะลดลงหรือไม่ เพราะปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ยังไม่กลับมาปกติ แม้แนวโน้มจะเพิ่มขึ้นแต่ก็มีความไม่แน่นอนสูงเช่นกัน ขณะเดียวกันปริมาณการใช้ไฟของไทยในขณะนี้แนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากจะพิจารณาแนวโน้มค่าได้ใกล้เคียงที่สุดจึงอยู่ที่เดือนมีนาคมนี้” นายคมกฤช กล่าว

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)

นายคมกฤช กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ราคาเอฟทีงวดปัจจุบัน(มกราคม-เมษายน2566) เมื่อบวกกับค่าไฟฐาน จะอยู่ที่ 5.2 บาทต่อหน่วย แต่รัฐบาลมีนโยบายตรึงราคาค่าไฟครัวเรือนไว้ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟกลุ่มอื่น อาทิ เอกชน ขยับไปอยู่ที่ 5.69 บาทต่อหน่วยก่อนจะลดลงเหลือ 5.33 บาทต่อหน่วย ดังนั้นหากต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง โดยเฉพาะ3ปัจจัยข้างต้น และรัฐบาลไม่มีนโยบายแยก 2ราคาและกำหนดค่าไฟราคาเดียว คาดว่างวดหน้า คือ พฤษภาคม-สิงหาคม2566 จะถูกกว่า 5.2 บาทต่อหน่วย แต่หากต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลงก็สามารถตรึงไว้ที่ 5.2 บาทต่อหน่วยได้ และหากต้นทุนเพิ่มค่าไฟจะสูงกว่า 5.2 บาทต่อหน่วย

Advertisement

“นอกจากนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะมีนโยบายอย่างไร ที่ผ่านมาการทำ2ราคาใช้วิธีนำก๊าซฯในอ่าวไทยมาให้ประชาชนใช้ก่อน และเอกชนจ่ายแพงกว่า แต่งวดใหม่นี้ต้องดูจะใช้แนวทางไหน จะให้เอกชนจ่ายแพงอีกหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันรัฐและเอกชนอยู่ระหว่างจัดตั้งกรอ.พลังงาน เพื่อพิจารณาโครงสร้างพลังงานร่วมกัน อย่างไรก็ตามเวลานี้ค่าไฟอยากให้ยึดจากราคา 5.2 บาทต่อหน่วยเป็นหลัก”นายคมกฤชกล่าว

ข่าวน่าสนใจอื่น:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image