จ๊าก ‘ค่าไฟ’ พ.ค.จ่อขึ้นอีก ปรับแน่ถ้าต้นทุนผลิตพุ่ง

จ๊าก ‘ค่าไฟ’ พ.ค.จ่อขึ้นอีก ปรับแน่ถ้าต้นทุนผลิตพุ่ง

เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 ว่า จะสรุปอัตราค่าเอฟทีได้ประมาณเดือนมีนาคมนี้ เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน และเริ่มใช้เดือนพฤษภาคม เนื่องจากต้องพิจารณาต้นทุนเชื้อเพลิงและปัจจัยผลกระทบให้รอบด้านเพื่อให้การพยากรณ์ใกล้เคียงมากที่สุด

ปัจจัยสำคัญต้องพิจารณาคือ 1.ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยว่าจะผลิตได้เท่าไร ก๊าซฯส่วนนี้จำเป็นที่สุด เพราะราคาเพียง 6-7 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู 2.ปริมาณแอลเอ็นจีสปอตหรือก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร ปัจจุบันราคากว่า 20 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู ราคานี้ถือว่าลดลงพอสมควร แต่ต้องติดตามความผันผวนหลังจากนี้อีกครั้ง และ 3.อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเดิมประเมินจากระดับ 37-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าเหลือระดับ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เงินบาทระดับนี้ส่งผลดีต่อแนวโน้มค่าหลังจากนี้แน่นอน

“แม้แนวโน้มราคาแอลเอ็นจีสปอตและค่าเงิน จะส่งผลดีต่อค่าไฟงวดหน้า แต่กกพ.ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าแนวโน้มจะลดลงหรือไม่ เพราะปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ ปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยยังไม่กลับมาปกติ แม้แนวโน้มจะเพิ่มขึ้น แต่ก็มีความไม่แน่นอนสูงเช่นกัน ขณะเดียวกันปริมาณการใช้ไฟของไทยในขณะนี้แนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากจะพิจารณาแนวโน้มค่าได้ใกล้เคียงที่สุดจึงอยู่ที่เดือนมีนาคมนี้” นายคมกฤช กล่าว

อย่างไรก็ตาม ราคาเอฟทีงวดปัจจุบัน (มกราคม-เมษายน2566) เมื่อบวกกับค่าไฟฐาน จะอยู่ที่ 5.2 บาทต่อหน่วย แต่รัฐบาลมีนโยบายตรึงราคาค่าไฟครัวเรือนไว้ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟกลุ่มอื่น อาทิ เอกชน ขยับไปอยู่ที่ 5.69 บาทต่อหน่วยก่อนจะลดลงเหลือ 5.33 บาทต่อหน่วย ดังนั้นหากต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง โดยเฉพาะ 3 ปัจจัยข้างต้น และรัฐบาลไม่มีนโยบายแยก 2 ราคา และกำหนดค่าไฟราคาเดียว คาดว่างวดหน้าคือ พฤษภาคม-สิงหาคม2566 จะถูกกว่า 5.2 บาทต่อหน่วย แต่หากต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลงก็สามารถตรึงไว้ที่ 5.2 บาทต่อหน่วยได้ และหากต้นทุนเพิ่มค่าไฟจะสูงกว่า 5.2 บาทต่อหน่วย

Advertisement

“นอกจากนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะมีนโยบายอย่างไร ที่ผ่านมาการทำ 2 ราคา ใช้วิธีนำก๊าซฯในอ่าวไทยมาให้ประชาชนใช้ก่อน และเอกชนจ่ายแพงกว่า แต่งวดใหม่นี้ต้องดูจะใช้แนวทางไหน จะให้เอกชนจ่ายแพงอีกหรือไม่ ปัจจุบันรัฐและเอกชนอยู่ระหว่างจัดตั้งกรอ.พลังงาน เพื่อพิจารณาโครงสร้างพลังงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เวลานี้ค่าไฟอยากให้ยึดจากราคา 5.2 บาทต่อหน่วยเป็นหลัก” นายคมกฤช กล่าว

ข่าวน่าสนใจอื่น:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image