เงินบาทเปิด 32.72 แข็งค่ารับเฟดปรับดอกเบี้ยลงตามคาด หนุนตลาดเปิดรับความเสี่ยง
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.72 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.84 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.55-32.85 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
นายพูน กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน โดยในช่วงแรกดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐต่างปรับตัวลดลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 4.50%-4.75% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ อีกทั้ง ประธานเฟดไม่แสดงความกังวลต่อภาวะการเงินที่ผ่อนคลายลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.00% ก่อนที่จะลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 4.50% ได้ในช่วงปลายปีนี้
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท มองว่าการอ่อนค่าลงและโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ ยังคงเป็นปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด อย่างไรก็ดี ประเมินว่า บรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ก็อาจช่วยหนุนให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนต่อเงินบาท ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม ECB และ BOE
นายพูน กล่าวว่า โดยมองว่าในวันนี้ หากผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เป็นไปตามที่ตลาดคาด (ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง) อีกทั้งยังคงส่งสัญญาณที่ชัดเจนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็อาจเป็นปัจจัยที่หนุนให้ทั้งค่าเงินยูโร (EUR) และค่าเงินปอนด์ (GBP) แข็งค่าขึ้นแต่อาจไม่มากนัก เนื่องจากในเชิงเทคนิคัลทั้ง เงินยูโรและเงินปอนด์ได้ปรับตัวใกล้กรอบแนวต้านมากขึ้น ซึ่งการแข็งค่าขึ้นของทั้งเงินยูโรและเงินปอนด์ อาจกดดันให้เงินเหรียญสหรัฐย่อตัวลงต่อและช่วยให้เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นใกล้โซนแนวรับ 32.50-32.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
แต่หากธนาคารกลางยุโรป (ECB) หรือธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องตามคาด ขณะที่ส่งสัญญาณกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น หรือ อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดอาจ “Sell on Fact” การแข็งค่าขึ้นของทั้งเงินยูโรและเงินปอนด์ในช่วงที่ผ่านมา กดดันให้ทั้งสองสกุลเงินอ่อนค่าลง และช่วยให้เงินเหรียญสหรัฐรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ทำให้เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัวแคบหรืออ่อนค่าเล็กน้อยกลับสู่โซน 32.85 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ เริ่มเห็นผู้เล่นต่างชาติปรับมุมมองต่อค่าเงินบาทในระยะสั้น หลังเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นต่างชาติบางส่วนรอจังหวะเงินบาทแข็งค่าทดสอบแนวรับ 32.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐในการทยอยขายทำกำไร Short USDTHB และอาจเริ่มปรับมุมมองเป็นเงินบาทอาจอ่อนค่าลง (เพิ่มสถานะ Long USDTHB) ทำให้คงมองว่าเงินบาทอาจยังไม่หลุดแนวรับสำคัญได้ง่ายนักในระยะสั้นนี้
นายพูน กล่าวว่า ด้านตลาดค่าเงิน เงินเหรียญสหรัฐพลิกกลับมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดย ดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ (DXY) ได้ปรับตัวลงราว 1% สู่ระดับ 101 จุด หลังผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังการลดดอกเบี้ยลงของเฟดในช่วงปลายปี ตามแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวลง นอกจากนี้ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดยังหนุนให้ ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะลดการถือครองเงินเหรียญสหรัฐลงเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ประเมินว่า เงินเหรียญสหรัฐยังคงมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนสูงในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันนี้ รวมถึงรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐในวันศุกร์
