ทอท.ยันผลสอบอาคารเซอร์วิส ฮอลล์ ดอนเมือง ไม่มีใครผิด-ก่อสร้างตามขั้นตอน พร้อมเปิดใช้บริการ 8 ก.พ.นี้
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี กำแพงอาคาร เซอร์วิส ฮอลล์ (Service Hall) ท่าอากาศยานดอนเมือง พังถล่ม เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของคณะกรรมการที่ประกอบด้วย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) สภาวิศวกร และสภาสถาปนิก พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการถล่มของอาคารดังกล่าว เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไป เป็นเหตุให้รางน้ำร่วงลงมาฟาดกับผนังอิฐจนทำให้เกิดเหตุการอาคารถล่มดังกล่าวเกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบข้อสังเกตหลายประเด็น อาทิ เรื่องท่อระบายน้ำที่เชื่อมกับรางน้ำฝน ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นท่อขนาดเล็ก แต่สามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น มั่นใจว่า หากเกินฝนตกหนักก็สามารถระบายน้ำได้ทันการแน่นอน ส่วนเรื่องตัวอาคารได้มีการตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่า อาคารหลังนี้มีความมั่นคง แข็งแรง ประชาชนมั่นใจด้านความปลอดภัยได้เลย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคม ทอท. และคณะกรรมการสนับสนุนด้านวิศวกรรมและมาตรฐานการก่อสร้าง ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจากวิศวกนรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) สภาวิศวกร และสภาสถาปนิก ได้ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมความเสียหายของอาคาร Service Hall ท่าอากาศยานดอนเมืองที่พังถล่ม โดยได้มีการปรับปรุงตามมาตรฐานทางวิศวกรรม และทดสอบเสถียรภาพของโครงสร้างอาคารแล้วเสร็จ เตรียมเปิดให้บริการรองรับผู้โดยสารในวันที่ 8 ก.พ.นี้
“ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังอยู่ภายใต้ระยะเวลาประกันผลงาน 2 ปี ซึ่งเอกชนคู่สัญญาได้รับผิดชอบต่อความเสียหาย และยังลงทุนเสริมวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เท้าแขน เพื่อให้อาคารนี้สามารถมีศักยภาพรองรับปริมาณผู้โดยสารได้มากกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งจากการทดสอบสามารถรองรับน้ำหนักได้ 500 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ดังนั้น เอกชนจึงไม่ถือว่าเป็นผู้ทิ้งงาน จึงไม่ได้ติดแบล๊กลิสต์กับ ทอท.ในการประมูลงานครั้งใหม่
“ส่วนพนักงาน ทอท.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติแบบก่อสร้างเดิมนั้น พบว่าพิจารณาแบบตามขั้นตอนถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ทอท.ได้ออกแบบก่อสร้างเบื้องต้นตามหลักวิศวกรรม และส่งมอบให้เอกชนนำไปดำเนินการ อีกทั้งยังได้ตรวจสอบผลการก่อสร้างตามขั้นตอน” นายกีรติกล่าว
สำหรับ อาคารเซอร์วิส ฮอลล์ จะเปิดให้บริการเพื่อรองรับผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์ และผู้โดยสารทั่วไปที่มาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองก่อนเวลาเปิดเคาน์เตอร์เช็กอินประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อระบายความแออัดบริเวณอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์มักจะมาก่อนเวลาเช็กอิน และก่อนหน้านี้ไม่มีพื้นที่รองรับ ทำให้เกิดความแออัดอยู่ที่อาคารผู้โดยสาร ภายหลังเปิดให้บริการอาคารนี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารในความจุ 3,000 คน โดย ทอท.ยืนยันว่าอาคารนี้ปลอดภัย และมีการก่อสร้างคานรับน้ำหนักเพื่อกระจายไปที่เสาเข็มเดิมของอาคารแล้ว
ด้าน ตัวแทนจาก บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุบริษัทได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมตามข้อแนะนำของกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ และผ่านการทดสอบความแข็งแรงจากสภาวิศวกร และสภาสถานปนิกแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังครอบคลุมอยู่ในประกันผลงาน ที่จะสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2566 โดยค่าปรับปรุงความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 12.9 ล้านบาท
