พณ.ขึ้นทะเบียน GI ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา สร้างรายได้ชุมชนชายแดนใต้ 

พณ.ขึ้นทะเบียน GI ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา สร้างรายได้ชุมชนชายแดนใต้ 

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศให้ “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตัวใหม่ของ จ.ยะลา ช่วยกระตุ้นการส่งออกผลไม้ไทยสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนและมาเลเซีย สอดรับนโยบายสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจชุมชนไทย กระจายรายได้สู่เกษตรกรรายย่อย ทั้งนี้ ด้วยรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครทำให้ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลามีราคาสูงถึง 190 บาท/กก. สร้างรายได้ให้คนยะลามากถึง 2,800 ล้านบาทต่อปี

“ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่โดดเด่น หวานมัน เนื้อแห้ง ละเอียด เส้นใยน้อย มีกลิ่นเฉพาะตัว เนื้อมีสีเหลืองอ่อน หรือเข้มตามแต่ละสายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ก้านยาว พันธุ์ชะนี พันธุ์พวงมณี พันธุ์มูซังคิง และพันธุ์หนามดำหรือโอฉี่ ปลูกได้ตลอดทั้งปี ปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งแต่ 100 เมตรขึ้นไป ตามไหล่เขา สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี ผนวกกับความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ที่ร่วมกันพัฒนาคุณภาพสินค้าและบรรจุภัณฑ์ จึงทำให้ “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” เป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้สำคัญของ จ.ยะลา ถัดจาก “กล้วยหินบันนังสตา” ที่ได้ขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้

นายสินิตย์กล่าวว่า การขึ้นทะเบียน GI ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่สายตาชาวโลก สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงานและรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน สำหรับวิสาหกิจชุมชน หรือชุมชนท้องถิ่นที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image